อาเซียนแทบแตก! “หวัง อี้” ชี้สหรัฐ จุดไฟไต้หวันในอินโด-แปซิฟิก อันตรายมาก
‘หวังอี้’ มองว่า นักการเมืองสหรัฐ บ่อนทำลายสันติภาพ และการจุดประเด็นไต้หวันในอินโด-แปซิฟิก เป็นเรื่องอันตราย และโง่เขลามาก
มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวต่างชาติจำนวนมากที่ไปรายงานข่าวการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 55 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่กรุงพนมเปญ ต่างไปรอดักสัมภาษณ์ผู้แทนจากจีน และสหรัฐอย่างล้นหลาม จนการประชุมแทบแตก หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐเดินทางไปยังไต้หวันในค่ำวานนี้ (2 ส.ค.)
นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ให้สัมภาษณ์ระหว่างการร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่กรุงพนมเปญ ว่า นางเพโลซี เดินหน้าเยือนภูมิภาคไต้หวันของจีนอย่างโจ่งแจ้ง โดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านอย่างหนักแน่นจากจีน
นายหวัง ระบุว่า การกระทำดังกล่าวขัดหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยของจีนอย่างมุ่งร้าย และมีส่วนส่งเสริมการยั่วยุทางการเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งปลุกเร้าความโกรธเคืองรุนแรงในหมู่ประชาชนจีน และการคัดค้านเป็นกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ
“การกระทำดังกล่าวพิสูจน์อีกครั้งว่าเหล่านักการเมืองสหรัฐ บางส่วนกลายเป็น “ผู้ก่อปัญหา” ของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ และสหรัฐ กลายเป็น “ผู้ทำลาย” สันติภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน และเสถียรภาพในภูมิภาครายใหญ่ที่สุด” รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ระบุ
สหรัฐไม่ควรเพ้อฝันถึงการขัดขวางการรวมชาติของจีน โดยไต้หวันถือเป็นส่วนหนึ่งของจีน การรวมชาติอย่างสมบูรณ์ของจีนเป็นกระแสธารแห่งยุคสมัย และสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงในประวัติศาสตร์ จีนจะไม่ปล่อยให้มีที่ว่างสำหรับกองกำลัง “เอกราชไต้หวัน” และการแทรกแซงจากภายนอก
ไม่ว่าสหรัฐ จะสนับสนุนหรือสมคบคิดกับกองกำลัง “เอกราชไต้หวัน” อย่างไร สิ่งเหล่านั้นจะสูญเปล่าทั้งหมด และสหรัฐ รังแต่จะทิ้งร่องรอยอันน่ารังเกียจของการแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ โดยประเด็นไต้หวันเกิดขึ้นยามจีนอ่อนแอ และวุ่นวาย และจะจบลงด้วยการฟื้นฟูชาติอย่างแน่นอน
สหรัฐ ไม่ควรจินตนาการถึงการบ่อนทำลายการพัฒนาและการฟื้นฟูของจีน โดยจีนได้พบเส้นทางการพัฒนาอันถูกต้องตามสภาพการณ์ของชาติ และประชาชนชาวจีน 1.4 พันล้านคน กำลังก้าวสู่ความทันสมัยแบบจีนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC)
จีนวางการพัฒนาประเทศ และชาติบนพื้นฐานความแข็งแกร่งของตนเอง และยินดีจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมพัฒนากับประเทศอื่นๆ ทว่าจีนจะไม่มีวันยอมให้ประเทศใดมาบ่อนทำลายเสถียรภาพ และการพัฒนาของประเทศ
การยั่วยุให้เกิดความวุ่นวายในประเด็นไต้หวัน เพื่อพยายามขัดขวางการพัฒนาของจีน และบ่อนทำลายการผงาดอย่างสันติของจีนจะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง และจะนำไปสู่ความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงอย่างแน่นอน
“สหรัฐ ไม่ควรเพ้อฝันถึงการเล่นเกมทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะการแสวงหาสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย เป็นความปรารถนาร่วมกันของประเทศในภูมิภาค” รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวและเสริมว่า การนำประเด็นไต้หวันเข้าสู่ยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคของสหรัฐ ซึ่งทวีความตึงเครียดและกระตุ้นการปะทะ ถือเป็นการขัดขวางกระแสการพัฒนาในภูมิภาค และความคาดหวังของประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งสิ่งนี้นับว่า “อันตรายและโง่เขลามาก”
หลักการจีนเดียวกลายเป็นบรรทัดฐานพื้นฐานที่บริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นส่วนสำคัญของระเบียบระหว่างประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
สิ่งที่สหรัฐควรทำคือ หยุดละเมิดจุดประสงค์ และหลักการดังกล่าวของกฎบัตรสหประชาชาติทันที และหยุดใช้ “ไพ่ไต้หวัน” เพื่อขัดขวางภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
สหรัฐไม่ควรเพ้อฝันถึงการบิดเบือนข้อเท็จจริงตามอำเภอใจ โดยฝ่ายสหรัฐอ้างว่าจีนกำลังทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ทว่าข้อเท็จจริงพื้นฐานคือ สหรัฐนั้นยั่วยุจีนในประเด็นไต้หวันก่อน ทั้งยังละเมิดอำนาจอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนอย่างโจ่งแจ้ง
ฝ่ายสหรัฐอ้างว่าเคยมีกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มาเยือนไต้หวันแล้วก่อนหน้านี้ ทว่าข้อเท็จจริงพื้นฐานคือ ความผิดพลาดในอดีตนั้น ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างเพื่อทำผิดพลาดซ้ำในปัจจุบัน
ฝ่ายสหรัฐอ้างว่าไม่สามารถยับยั้งสภาผู้แทนราษฎรได้ เนื่องด้วยหลักการแบ่งแยกอำนาจ ทว่าบรรทัดฐานพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศระบุว่าสหรัฐ ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศของตน และกลุ่มนักการเมืองคนสำคัญมิควรประพฤติตัวไม่เหมาะสม
นอกจากนั้นฝ่ายสหรัฐยังอ้างว่าความพยายามรวมชาติของจีนเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อไต้หวัน ทว่าตรรกะพื้นฐานคือ ไต้หวันเป็นส่วนที่มิสามารถแบ่งแยกได้ของดินแดนจีน และประเด็นไต้หวันถือเป็นกิจการภายในของจีนเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องชอบด้วยกฎหมาย และชอบธรรมที่จีนจะรักษาบูรณภาพแห่งดินแดน และต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน
หวังเน้นย้ำว่าหลักการจีนเดียวเป็นกำลังหลักในการรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน และแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐ สามฉบับเป็น “ราวกั้น” ที่แท้จริงสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างจีน และสหรัฐ
การยึดติดกับสหรัฐเพื่อแสวงหา “เอกราช” ถือเป็นทางตัน และการพยายามใช้ประเด็นไต้หวันเพื่อควบคุมจีนมีแต่จะล้มเหลว
หวังทิ้งท้ายว่าประชาชนจีนมีความกล้าหาญที่จะไม่หลงผิดจากการหลอกลวงหรือหวาดกลัวความชั่วร้าย มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะไม่ถูกข่มขู่หรือบดขยี้ มีความมุ่งมั่นที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียว และมีความสามารถปกป้องอธิปไตย และศักดิ์ศรีของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว ยามเผชิญปัญหาสำคัญในการรวมชาติ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์