ราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง 1.89% เหตุผวาจีนซ้อมรบขู่ไต้หวัน
ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันพฤหัสบดี(4ส.ค.)พุ่งขึ้น 1.89% ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการซ้อมรบของจีนรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งมีการยิงขีปนาวุธตกลงในน่านน้ำญี่ปุ่น
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดตัวขึ้น 1.89% ปิดที่ราคา 1,810.90 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงว่า กองทัพจีนได้ยิงขีปนาวุธ 9 ลูกในวันนี้ และจำนวน 5 ลูกได้ตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น (EEZ) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จีนได้ยิงขีปนาวุธตกลงในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮาเตรูมะ
"นี่เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติของเรา และความปลอดภัยของประชาชน" นายโนบูโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นกล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ทำการประท้วงทางการทูตต่อรัฐบาลจีน
นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เรียกร้องให้จีนยุติการซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวันโดยทันที
ทั้งนี้ จีนได้ยิงขีปนาวุธดังกล่าวในการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเพื่อตอบโต้ต่อการเดินทางเยือนกรุงไทเปของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยการซ้อมรบจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 7 ส.ค.
ราคาทอง ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ออกแถลงการณ์เตือนว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 จนถึงสิ้นปี 2566
บีโออี ระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยนานถึง 5 ไตรมาส ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน โดยรายได้ในภาคครัวเรือนของอังกฤษจะทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2565-2566 ขณะที่การบริโภคเริ่มหดตัว
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 258,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าระดับ 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6%