ดาวโจนส์ร่วง 184 จุดหลังเฟดยันขึ้นดอกเบี้ยสู้เงินเฟ้อ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดวันจันทร์(29ส.ค.)ร่วงลง 184 จุด โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงปรับตัวลงในวันนี้ ต่อเนื่องจากที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในวันศุกร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 184.41 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 32,098.99 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 27.05 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 4,030.61 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 124.04 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 12,017.67 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงมากกว่า 1,000 จุด หรือมากกว่า 3% ในวันศุกร์(26ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี500 ดิ่งลง 3.4% และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 3.9% โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.
การทรุดตัวลงของดัชนีทั้ง 3 ได้ลบล้างช่วงบวกทั้งหมดที่ได้ทำไว้นับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ดัชนีชี้วัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปพุ่งขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ต่างยืนยันว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 7.98% สู่ระดับ 27.61 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.
ส่วนดัชนี STOXX 50 volatility index ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป ดีดตัวขึ้น 2.7 จุด สู่ระดับ 29.606 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
"เราจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าภารกิจของเราจะประสบความสำเร็จ โดยภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจอาจได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพของราคาจะทำให้เกิดผลกระทบมากกว่า" นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการใช้มาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ด้านนางอิสซาเบล ชนาเบล กรรมการอีซีบีระบุเช่นกันว่า อีซีบีจะใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. หลังนายพาวเวลให้คำมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%