จีนชนะโหวตยูเอ็นปัดชาติตะวันตกเปิดถกปมละเมิดอุยกูร์
คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) มีมติเสียงข้างมากไม่รับการเสนอญัตติจากกลุ่มชาติตะวันตกที่ขอให้มีการหารือเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมอุยกูร์ในประเทศจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า (6 ต.ค.) ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือเป็นชัยชนะด้านแสนยานุภาพทางการทูตของทางการจีนเหนือกลุ่มชาติตะวันตก และพันธมิตร หลังทางการบาห์เรน ตุรกี อังกฤษ สหรัฐ และชาติพันธมิตร เสนอญัตติดังกล่าวแต่ถูกจีน และชาติแนวร่วมลงคะแนนปัดตกเฉือนชนะไป 19 ต่อ 17 เสียง ในจำนวนนี้ มีชาติที่ของดออกเสียงถึง 11 ชาติ
ญัตติข้างต้นที่ตกไปนั้นเป็นการขอให้มีการหารือกันในประเด็นเรื่องข้อครหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงในมณฑลซินเจียงของจีนในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมี.ค. 2566
ผลการลงคะแนนที่ออกมาส่งผลให้ผู้แทนจีน และชาติแนวร่วมของจีนปรบมือเสียงดังกึกก้องในที่ประชุมยูเอ็นเอชอาร์ซี ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างถกเถียงในประเด็นดังกล่าวมานานหลายวัน
แต่ "โดลคุน อิสา" ประธานสภาอุยกูร์โลก กล่าวว่า “มตินี้คือ ความหายนะ น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก เราไม่เคยยอมแพ้ แต่เรารู้สึกผิดหวังมากต่อผลตอบรับของบรรดาชาติมุสลิม” ซึ่งพบว่า การ์ตา อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และปากีสถาน ปฏิเสธการเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยอ้างว่า เสี่ยงสร้างความบาดหมางกับจีน
ด้าน "มาร์ก ลิมอง" จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนสากล กล่าวว่า มตินี้ทำลายความน่าเชื่อถือของคณะมนตรีอย่างร้ายแรง และมอบชัยชนะให้จีนอย่างชัดเจน ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ มองเห็นวิธีแยกตัวออกห่างจากเครือข่ายสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวว่า (6 ต.ค.) ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงไม่ใช่เรื่องสิทธิมนุษยชนทั้งหมด แต่เป็นปัญหาการต่อต้านก่อการร้าย กำจัดการสนับสนุนก่อการร้าย และต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์