ญี่ปุ่นเผชิญหิมะตกหนัก อากาศหนาวจัด เสียชีวิตเบื้องต้น 13 ราย
ในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่นกำลังเผชิญสภาพอากาศหนาวจัด จากอิทธิพลของหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 13 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากอุบัติ้หตุ และเป็นผู้สูงอายุ ที่ออกไปกวาดหิมะที่ปกคลุมรอบบ้าน
หิมะตกหนัก ครั้งนี้เกิดขึ้นทั่วพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันตกของประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ พยากรณ์อากาศ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมตัวให้พร้อมเฝ้าระวังพายุฤดูหนาวที่รุนแรงขึ้นหลังจากหิมะตกหนักตลอดด้านที่ติดกับชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น และพื้นที่ภาคตะวันตกและตกมาตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น13คน และบาดเจ็บหลายสิบคน
ส่วนพื้นที่ชนบทบนเกาะฮอกไกโด มีหิมะตกหนา 1 เมตร 61 เซ็นติเมตร การรถไฟต้องระงับการให้บริการรถไฟที่เชื่อมกับเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นเมืองเอกของเกาะฮอกไกโด เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านถ้าไม่จำเป็น ไปจนถึงวันที่ 26 ธ.ค.เนื่องจากหิมะที่ตกหนักรบกวนการจราจรและทำให้ไฟฟ้าดับ
สำนักข่าวเอ็นเอชเค รายงานว่า ผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 13 คน ถูกพบว่าเกิดจากอุบัติเหตุ โดยผู้หญิงวัยประมาณ 20 ปีคนหนึ่ง เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ที่ถูกหิมะกลบ ที่เมืองคาชิวาซากิ จังหวัดนิงาตะ โดยคาดว่าน่าจะเกิดจากก๊าซพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ท่อไอเสียถูกหิมะกลบ ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นคนคนชราที่มีวัยมากกว่า 80 ปี โดยมี 3 คน ที่เสียชีวิตขณะออกไปกวาดหิมะรอบบ้าน ส่วนจังหวัดอากิตะ มีชายวัย 80 ปี เสียชีวิตอยู่ในหิมะ นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 19 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 26 คน
ด้านสหรัฐเผชิญสภาพอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบ 40 ปี จากพายุฤดูหนาว หิมะตกหนัก ลมแรง น้ำแข็งจับ โดยอุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันหลายล้านคน
ทั้งนี้ ประชาชนครึ่งประเทศได้รับคำเตือนให้ระวังพายุฤดูหนาว ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในยุคนี้และหลีกเลี่ยงการใช้ถนน ผู้ว่าการรัฐอย่างน้อย 12 รัฐ ต้องประกาศมาตรฐานฉุกเฉินและออกมาตรการรับมือต่าง ๆ เช่น รัฐโคโรลาโด ระดมเจ้าหน้าที่รักษาดินแดนกว่า 100 นาย เข้าสนับสนุนปฏิบัติการรับมือสภาพอากาศหนาวจุดสุดขีด รัฐคอนเน็คติกัตจะออกมาตรการรับมือในวันนี้จนถึงวันจันทร์ (26ธ.ค.) รัฐจอร์เจียประกาศภาวะฉุกเฉินรับมืออุณหภูมิต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์