วาฬไรซ์ลดลงต่อเนื่อง อุปกรณ์ดักจับปลาภัยคุกคามอันดับ 1
สำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเมื่อวันอังคาร ( 27 ธ.ค.) ว่า “วาฬไรซ์แอตแลนติกเหนือ” ที่หายไปยังคงได้รับการปกป้องภายใต้รัฐบัญญัติสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ และวาฬชนิดนี้จะต้องมีการปกป้องหลายระดับ เพื่อไม่ให้สูญพันธุ์เร็วเกินไป
วาฬชนิดนี้เหลือเพียง 340 ตัว และลดลงมาหลายปีแล้ว องค์การบริหารมหาสมุทร และชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (เอ็นโอเอเอ) เปิดเผยการสำรวจสถานะของวาฬเมื่อวันอังคาร (27 ธ.ค.) ว่า วาฬไรซ์เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถบรรลุเกณฑ์ฟื้นฟูตามแผนฟื้นฟูได้
การปกป้องวาฬเป็นที่มาของข้อพิพาทระหว่างนักอนุรักษ์ และชาวประมงพาณิชย์ เนื่องจากหนึ่งในภัยคุกคามที่กระทบต่อสัตว์ทะเลอันดับต้นๆ คือ อุปกรณ์ดักจับปลา
เอ็นโอเอเอ ดำเนินตรวจสอบสถานะวาฬไรซ์ทุกๆ 5 ปี พบว่า จำนวนวาฬไรซ์ลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะอุปกรณ์ดักจับปลา เรือชนวาฬ และวาฬมีความเครียด
“ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งกีดขวางที่รุนแรงในระยะยาว สภาพแวดล้อมที่ตึงเครียด รวมถึงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และความเครียดของวาฬที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้วาฬไรซ์ออกลูกน้อยลงและขัดขวางการฟื้นฟูสายพันธุ์” เอ็นโอเอเอ กล่าว
พร้อมทั้งแนะนำให้ทุกคนช่วยกันรักษาจำนวนวาฬไรซ์ ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลแคนาดาเพื่อลดอุบัติเหตุเรือชนวาฬ และลดสิ่งกีดขวางในทะเลต่างๆ ทำการวิจัยเพิ่มขึ้น ดัดแปลงเครื่องมือประมงเพื่อลดความเสี่ยงให้วาฬไรซ์ และให้ความสำคัญในการกำจัดเครื่องมือประมงทิ้งร้างออกจากเส้นทางของวาฬ โดยวาฬชนิดนี้อพยพจากรัฐจอร์เจีย และรัฐฟลอริดาไปยังเขตนิวอิงแลนด์ของสหรัฐ และประเทศแคนาดา
เจเนต มิลส์ ผู้ว่ารัฐเมนของสหรัฐ กล่าวว่า แผนการควบคุมของเอ็นโอเอเอไม่ได้ปกป้องวาฬไรซ์อย่างมีค่า แต่เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงชีวิตของครอบครัวในรัฐเมนหลายพันครอบครัว รวมถึงธุรกิจขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้ปกป้องวาฬไรซ์มากกว่านี้ หากชักช้าอาจทำให้วาฬสูญพันธุ์เร็วขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์