ปีแห่งนวัตกรรมไทย-ฝรั่งเศส โหมโรงก่อนส่งดาวเทียม THEOS-2 สู่อวกาศ

อุปกรณ์ดังกล่าวนำไปสู่พระราชดำริให้สร้างหอดูดาว 2 แห่งที่ลพบุรี และกรุงศรีอยุธยา เมื่อมาถึงวันนี้ไทยและฝรั่งเศสกำลังจะดาวเทียมร่วมกันที่ชื่อ THEOS-2

“ตีแยรี มาตู” เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า  ฝรั่งเศสและไทยมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างกัน โดยเฉพาะมิติการท่องเที่ยว อาหาร และสินค้าลักซ์ชัวรี สิ่งเหล่านี้ทำให้เราตัดสินใจผนึกกำลังทำให้ปีนี้เป็น "ปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย ปี 2566" (2023 Thailand -France Year of Innovation) เพื่อจุดประกายคนทุกรุ่นของสองประเทศได้เรียนรู้และปรับใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมในชีวิตประจำวัน ตลอดจนธุรกิจต่างๆ ไปพร้อมกัน

ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดตัว “ปีแห่งนวัตกรรมปี 2566” ที่จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 26 ม.ค.ณ สวนเบญจกิติ กรุงเทพมหานคร และแน่นอนว่า ภายในงานจะโชว์ความล้ำเลิศทางเทคโนโลยีอวกาศก่อนจะมีการเปิดตัวดาวเทียม THEOS-2 สร้างขึ้นโดยฝรั่งเศสและไทยเป็นเจ้าของ ถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างไทยและฝรั่งเศส

 

เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเล่าว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นความริเริ่มที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจภายใต้แผนโรดแมพ ว่าด้วยการดำเนินความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-ไทย (ค.ศ. 2022-2024) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเมื่อวันที่ 22 ก.พ.2565 ณ กรุงปารีส โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันภายในปี 2567 

ปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย ถือเป็นเสาหลักที่ 3 ของพลวัตที่ถูกขับเคลื่อนมาเป็นเวลากว่า 2 ปี เพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเสาหลักแรกคือการจัดตั้งกรอบทางสถาบันขึ้นใหม่ตามแผนการสำหรับการดำเนินความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-ไทย และเสาหลักที่ 2 คือการฟื้นฟูการเยือนอย่างเป็นทางการรอบใหม่โดยเริ่มต้นจากระดับสูงสุดด้วยการเยือนกรุงเทพมหานครของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย.ที่ผ่านมา

 

“ประธานาธิบดีมาครงกล่าวไว้ในระหว่างการเยือนประเทศไทยเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้วว่า ปีแห่งนวัตกรรมได้เป็นหนึ่งในความคิดริเริ่มหลักในการกระชับความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศสปีนี้ และเป็นหมุดหมายของปีที่จะกระชับความร่วมมือข้ามพรมแดนและสหสาขาวิชาชีพต่างๆ ไปตลอดทั้งปี เพื่อมุ่งสู่ความสัมพันธ์ที่สดใสระหว่าง 2 ประเทศและส่งเสริมการเกิดขึ้นของความร่วมมือใหม่ๆ” เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสกล่าวพร้อมเสริมว่า โดยเฉพาะโลโก้ของงานมีความพิเศษซ้อนอยู่ ถ้าหากมองผิวเผินจะเห็นรูปหลอดไฟบ่งบอกถึงการจุดประกายสร้างสรรค์ความรู้ และสัตว์ประจำชาติของสองประเทศได้แก่ ช้างของไทย และไก่ของฝรั่งเศสที่จะเป็นตัวแทนความผูกพันสองชาติ

ปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย 2023 มุ่งสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในการดำเนินความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-ไทย ด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมองที่ทั้งสองประเทศมีต่อกันให้ทันสมัยมากขึ้น รวมถึงกระชับและเสริมสร้างพลวัตความร่วมมือระหว่างกัน ผ่านการส่งเสริม รวบรวม และชูจุดเด่นกิจกรรมและความริเริ่มทุกด้านที่สามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางนวัตกรรมของฝรั่งเศสและไทย รวมทั้งของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ

การจัดงานครั้งนี้ เป็นการเพิ่มพูนสิ่งที่ดำเนินการอยู่แล้ว รวมถึงการริเริ่มการดำเนินแนวทางใหม่ ๆ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มพูนความร่วมมือๆ ที่ทางวิชาการและวิทยาศาสตร์ การสร้างวงการนวัตกรรมที่จะทำให้เกิดความเป็นหุ้นส่วนด้านอุตสาหกรรม การ ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงโครงสร้าง และการจัดตั้งคณะกรรมการนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทยในช่วงปลายปี 2566 โดยมีภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมเพื่อเสริมสร้างพลวัตที่เราต้องการสร้างขึ้นให้คงอยู่ยาวนาน

ทูตฝรั่งเศสย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกในทุกวันนี้ก้าวไปไกลกว่าการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีใดๆ สะท้อนให้เห็นถึงการมองเป้าหมายที่สูงขึ้นร่วมกันที่จะพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG 

สถานทูตฝรั่งเศสหวังว่า การจัดงานดังกล่าวจะรวบรวม และชูจุดเด่นกิจกรรมและความริเริ่มทุกด้านที่สามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางนวัตกรรมของฝรั่งเศสและไทย โดยเฉพาะของภาคธุรกิจฝรั่งเศส และเพื่อรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี ได้แบ่งกลุ่มนวัตกรรมออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ซึ่งครอบคลุมทุกรูปแบบและทุกสาขา ได้แก่ 1. อากาศและอวกาศ 2. สาธารณสุข ความงามและการดูแลสุขภาพ (Wellness) และอาหาร 3. เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว และ 4. อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 

 

ถึงแม้ว่าปีแห่งนวัตกรรมซึ่งเป็นความริเริ่มร่วมกันของฝรั่งเศสและไทยจะถูกขับเคลื่อนโดยแผนการสำหรับการดำเนินความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-ไทย และเป็นประเด็นสำคัญอันดับแรกของแผนปฏิบัติการของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส แต่ความริเริ่มดังกล่าวก็ไม่ควรจำกัดอยู่เพียงแค่กิจกรรมเชิงสถาบันเท่านั้น ผู้มีบทบาททุกภาคส่วนในทีมประเทศฝรั่งเศสในประเทศไทยก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ทั้งสมาคมฝรั่งเศส สถาบันวิจัย สถานศึกษา ภาคธุรกิจ หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย คณะที่ปรึกษาด้านการค้าต่างประเทศ และกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น La French Tech

 

ทูตตีแยรีกล่าวในตอนท้ายว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานนี้ คือวรรณกรรมระดับโลก “เจ้าชายน้อย” ของมูลนิธิ Antoine de Saint-Exupéry ซึ่งเปรียบได้กับแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเรา และเจ้าชายน้อยก็เป็นนักบินอวกาศที่มีชื่อเสียง และจะมีอายุครบ 80 ปีในปีนี้ ดังนั้น เราจะมีความร่วมมือกับมูลนิธินี้ เพื่อเผยแพร่หนังสือดีๆ เรื่องนี้ให้กับเยาวชนไทยตลอดทั้งปี