ถอดรหัส “เทสลา” ทุบราคาเปิดศึกชิงบัลลังก์รถอีวี

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักวิเคราะห์และนักลงทุนมองความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการที่เทสลาปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่ขายทั่วโลกลงมากถึง 20% หวังดึงดูดลูกค้ารายใหม่ที่สนใจซื้อรถอีวี แถมกึ่งเป็นการบังคับให้บริษัทผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ต้องปรับกลยุทธ์ตาม อย่างการลดราคาให้ต่ำกว่า เพราะเสี่ยงไม่ได้รับความสนใจและถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ขณะที่บริษัทสตาร์ทอัปบางแห่งอาจไม่สามารถปรับลดราคาที่ถูกลงได้ เนื่องจากต้องต่อสู้กับต้นทุนและการผลิตที่สูงลิ่ว ประกอบกับยอดการผลิตรถยังต่ำกว่าเทสลาของอีลอน มัสก์ ซึ่งในปีที่แล้วมีจำนวนส่งมอบรถยนต์มากกว่า 1.3 ล้านคัน

แกเร็ธ เนลสัน นักวิเคราะห์ของ CFRA Research กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของเทสลาจะ “เสริมสร้าง ... ความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น”

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการฉุดสตาร์ทอัปรถยนต์ไฟฟ้าให้ห่างไกลโอกาสการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ก็ในเมื่อบรรดานักลงทุนเชื่อว่า บริษัทเหล่านี้จะเข้าครอบครองตลาดอีวี 

เนลสัน ยกตัวอย่างการแข่งขันระหว่างเทสลา ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจรถอีวี  กับริเวียนและลูซิด สตาร์ทอัปน่าจับตามองในสหรัฐ ซึ่งเห็นว่า สตาร์ทอัพทั้งสองยังไม่สามารถทำกำไรได้ดี เพราะความสามารถในการผลิตและส่งมอบรถยนต์ในปีที่แล้วได้ประมาณ 24,000 คัน โดยริเวียนใช้เงินไปกับการผลิตรถยนต์แต่ละคันมากกว่าราคาขายของรถคันนั้นเสียอีก

"ต้นทุนของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 2.7 เท่าของรายได้ในไตรมาสล่าสุด ขณะที่ต้นทุนขายของบริษัทลูซิด  อยู่ที่ประมาณ 2.5 เท่าของยอดขาย" นักวิเคราะห์ระบุ

ถึงอย่างไรกนั้น ริเวียนมีเงินสดหมุนเวียนอยู่ที่ 1.38 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ซึ่งมากที่สุดในบรรดาบริษัทสตาร์ทอัปอีวีของสหรัฐ ส่วนลูซิดมีเงินสดสำรองสูงสุดเป็นอันดับสองด้วยมูลค่า 1.26 แสนล้านดอลลาร์

แต่การที่เทสลาตัดสินใจเช่นนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสตาร์ทอัปในสหรัฐเท่านั้น แต่สร้างแรงสะเทือนต่อฟาราเดย์ ฟิวเจอร์และสตาร์ทอัปรายอื่นๆ ของอังกฤษที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน ในทางกลับกันอาจเป็นสัญญาณเตือนว่า พวกเขาอาจไม่สามารถดำเนินการได้ไปจนถึงปี 2566

เดเนียล อีฟ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของ Wedbush กล่าวว่า นี่เป็นการต่อสู้ของมหาศึกชิงบัลลังก์ในอุตสาหกรรมรถยนต์อีวี และพวกเขาต้องเผชิญกับทางเลือกที่น่ากลัวในช่วง 12 - 18 เดือนข้างหน้าหากพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ Wedbush คาดว่าจะมี ... ผู้แพ้ที่ต้องจำยอมกับการรวมบริษัทเพื่ออยู่รอด หรือไม่ในอนาคต อาจแย่กว่านั้น