"เฟด" ผ่อนคันเร่ง! ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เดินหน้าปราบ "เงินเฟ้อ"
"เฟด" ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามคาด พร้อมเดินหน้าปราบ "เงินเฟ้อ" ต่อ แม้ตัวเลขเริ่มผ่อนคลายลงในช่วงหลัง
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (1 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เฟดกำลังปราบตัวเลขเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนึ้ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 8 ตั้งแต่เดือน มี.ค. ปีที่แล้ว มีขึ้นหลังจากเอฟโอเอ็มซีมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเมื่อเดือน ธ.ค. 2565 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2550
แถลงการณ์เอฟโอเอ็มซี ระบุว่า แม้อัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่
ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 7 ครั้งในปีที่แล้ว โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้ง, 0.50% จำนวน 2 ครั้ง และ 0.75% จำนวน 4 ครั้ง ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4.25% เพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงก่อนจะเริ่มผ่อนคลายลงในปัจจุบัน
ก่อนการประชุมรอบนี้ บรรดานักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.0% ในปีนี้ ต่ำกว่าที่เฟดส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่าจะปรับขึ้นสู่ระดับ 5.1% หรือเทียบเท่ากับช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย 5.00-5.25%
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50%-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. และจะปรับขึ้นอีก 0.25% สู่ระดับ 4.75%-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. ก่อนที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28-29 ก.ย. ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยก่อนหน้านี้เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปี 2567
ขณะเดียวกัน ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือน มี.ค. รวมทั้งจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้