เคลื่อนไหวหนัก “จีน” ประท้วงสหรัฐยิงบอลลูน กระทบสัมพันธ์รุนแรง
กระทรวงการต่างประเทศจีน ออกโรงประท้วงในเช้าวันจันทร์ (6 ก.พ.) ชี้สหรัฐตัดสินใจยิงทิ้งบอลลูนของจีนที่ทางการปักกิ่งอ้างว่าเบนออกนอกเส้นทางได้ส่งผลกระทบรุนแรง และล้มความพยายามสร้างสัมพันธ์สองประเทศ
เอเอฟพีรายงานว่า วัตถุลอยบนท้องฟ้าที่วอชิงตันอ้างว่า เป็นบอลลูนสอดแนมได้ลอยอยู่ทางตอนเหนือของสหรัฐเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งในที่สุดได้ถูกยิงตก และทางกองทัพสหรัฐก็กำลังเร่งค้นหาเศษซากของบอลลูนทั้งสองลูก แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ทริปการเยือนประเทศปักกิ่งของแอนโทนี บลิงเคนเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ปักกิ่งเริ่มเคลื่อนไหวประท้วงต่อการตัดสินใจของสหรัฐ โดยอ้างบอลลูนเป็นเครื่องบินพลเรือนที่ถูกพัดออกนอกเส้นทางและในวันอาทิตย์ (5 ก.พ.) ได้ส่งหนังสือร้องเรียนเป็นทางการไปยังสถานทูตสหรัฐในประเทศจีน
นายเซีย เฟิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในแถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศจีนว่า การกระทำสหรัฐส่งผลกระทบรุนแรงและทำลายความพยายาม ตลอดจนความคืบหน้าในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพระหว่างจีนกับสหรัฐ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการประชุม G20 ที่เกาะบาหลี เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
"จีนจะ ปกป้องสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของบริษัทจีนอย่างแน่วแน่ ปกป้องผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของจีน และสงวนสิทธิ์เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่จำเป็น” ผช.รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าว
ทางรัฐบาลวอชิงตันมองว่า บอลลูน “ละเมิดอธิปไตยสหรัฐ” โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐนายหนึ่งรัฐบาลสหรัฐสั่งระงับเครื่องบินขึ้นลงเหนือสนามบินเซาท์แคโรไลนาสามแห่ง ได้แก่ สนามบินวิลมิงตัน,มายร์เทิลบีช และชาร์ลสตัน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาของ “การกระทำเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ” ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ จากนั้นจึงเริ่มปฏิบัติการโดยใช้เครื่องบินรบและเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศหลายลำ
อย่างไรก็ตาม เครื่องบินเอฟ-22 จากฐานทัพอากาศแลงก์ลีย์ในเวอร์จิเนียเพียงลำเดียวเท่านั้นที่รับหน้าที่ยิงบอลลูนเมื่อเวลา 14.39 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือ 01.39 น. วันอาทิตย์ (5 ก.พ.) ตามเวลาประเทศไทยโดยใช้ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9Xความเร็วเหนือเสียงแบบตรวจหาความร้อนเพียงลูกเดียวจัดการส่วนสนามบินทั้งสามแห่งเที่ยวบินกลับมาทำการปกติช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา