อัตราเกิดใหม่จีนลด สะเทือนรร.อนุบาลเอกชนทยอยปิดตัวภายใน 7 ปี
สำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ เผยว่า โรงเรียนอนุบาลเอกชนทั่วประเทศจีน ซึ่งคิดเป็น 50% ของโรงเรียนอนุบาลในประเทศ และมักมีราคาแพงกว่าโรงเรียนรัฐบาล กำลังประสบปัญหาเด็กลงทะเบียนเรียนน้อยลง เนื่องจากอัตราการเกิดจีนลดฮวบ
ข้อมูลจากรัฐบาลจีน เผยว่า จำนวนเด็กเกิดใหม่ในจีนปี 2559 ลดลงจาก 18.8 ล้านคนสู่ 9.5 ล้านคนในปี 2565 ซึ่งเป็นสถิติเด็กเกิดใหม่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2492
ข้อมูลสถิติจากกระทรวงศึกษาธิการจีน ระบุว่า จำนวนโรงเรียนอนุบาลและจำนวนเด็กลงทะเบียนลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปี 2564
ทั้งนี้ การขาดแคลนเงินทุนและการเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดของรัฐบาล ทำให้ธุรกิจเหล่านี้เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้น ๆ จากวิกฤติประชากรจีน
การเงินของโรงเรียนหลายแห่งเข้าขั้นวิกฤติ เพราะรายได้จากการลงทะเบียนเรียนลดลง แม้แต่โรงเรียนอนุบาลเอกชนในเมืองที่มีประชากรมาก ต่างยังรู้สึกถึงผลกระทบนี้
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โรงเรียนอนุบาลเป่ยเล่ยของ “หลิว เตอเว่ย” ในเมืองหรงเซียน มณฑลกว่างซี ที่มีประชากร 656,000 คน มีนักเรียนทั้งหมด 140 คน แต่ในปี 2563 จำนวนเด็กนักเรียนลดลงเหลือ 30 คน
ครั้งแรกหลิวคิดว่า เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลปักกิ่งยกเลิกมาตรควบคุมโควิดเมื่อปี 65 แล้ว แต่จำนวนเด็กในโรงเรียนยังไม่เพิ่มขึ้น
จากรายงานของสถาบันวิจัยการศึกษาซันกลอรี (Sunglory) ในกรุงปักกิ่ง เผยเมื่อปี 65 ว่า การดำเนินกิจการโรงเรียนอนุบาลประมาณ 30%-50% ช่วงเริ่มต้นทศวรรษนี้ อาจปิดตัวลงภายในปี 2573 เพราะนักเรียนลดลง
“หยวน ซิน” ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ จากสถาบันเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัยนันไค ระบุว่า แม้นโยบายจีนช่วยที่ช่วยส่งเสริมให้มีบุตรเปิดใช้มามากกว่า 2 ปี แต่แนวโน้มเด็กเกิดใหม่อาจเพิ่มขึ้นยาก
“หย่ง ปิงชี” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการศึกษาศตวรรษ 21 เตือนว่า การปิดตัวของโรงเรียนอนุบาลจำนวนมากอาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าอัตราส่วนครูต่อนักเรียนไม่เปลี่ยนแปลง
โดยอัตราส่วนครูต่อนักเรียนของจีนอยู่ที่ 1 คนต่อ 15 คน ต่ำกว่าประเทศพัฒนาอื่น ๆ ที่ปกติมีอัตราส่วนครูต่อนักเรียนอยู่ที่ 1 ต่อ 10 คน และ 1 ต่อ 5 คน
หย่ง กล่าวว่า เพื่อให้โรงเรียนอนุบาลอยู่ต่อได้ รัฐบาลต้องเพิ่มเงินอุดหนุนให้กับโรงเรียนอนุบาลทั้งหมด
ด้าน “หยัน ซูหยัน” ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเอ็กซ์เปอร์ริเมนท์หัวนา ในเมืองเป่าติ้ง มณฑลเห่อเป่ย์ แนะว่า กิจการโรงเรียนอนุบาลที่อยากอยู่รอดต้องพัฒนาการแข่งขันของโรงเรียนเอง
แต่หลิวเจ้าของโรงเรียนอนุบาลในกว่างซี เผยว่า ตนอาจต้องปิดโรงเรียนหากสถานการณ์ปีนี้ไม่ดีขึ้น