ประเมินแผ่นดินไหวตุรกีก่อความเสียหาย 25,000 ล้านดอลล์ ยอดตายทะลุ 45,000 ราย
ผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่ตุรกีเพิ่มเป็นกว่า 45,000 ราย ด้านเจพีมอร์แกน ประเมิน แผ่นดินไหวสร้างความเสียหายโดยตรงแก่สิ่งปลูกสร้างในตุรกี 2.5% ของจีดีพี หรือ 25,000 ล้านดอลลาร์
นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ หัวหน้าฝ่ายบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่ตุรกีและซีเรียมีแนวโน้มพุ่งขึ้นมากกว่า 56,000 ราย
ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 ราย ขณะที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นและการเกิดอาฟเตอร์ช็อกเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมา
เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นภัยพิบัติที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิถล่มญี่ปุ่นในปี 2554
ด้านสหประชาชาติ(ยูเอ็น) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี(16ก.พ.)ระดมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในตุรกีจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 34,000 ล้านบาท เพื่อจัดสรรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเวลา 3 เดือนแก่ประชาชน 5.2 ล้านคน หลังจากที่2 วันก่อนยูเอ็นเพิ่งประกาศระดมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในซีเรีย 400 ล้านดอลลาร์หรือ 13,600 ล้านบาท
ขณะที่ในตุรกีมีการระดมเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยภายในประเทศได้ราว 6,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งธนาคารกลางตุรกีเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุด 1,600 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีธนาคารอื่น ๆ นักการเมือง สถาบันของรัฐ และประชาชน
ด้านเจพีมอร์แกน วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ประเมินว่า แผ่นดินไหวสร้างความเสียหายโดยตรงแก่สิ่งปลูกสร้างในตุรกีราว 2.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) หรือ ประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8.5 แสนล้านบาท
ในซีเรียมีรถบรรทุกของยูเอ็น 119 คันจัดส่งความช่วยเหลือผ่านจุดผ่านแดน 2 แห่งระหว่างตุรกีและซีเรียเข้าสู่พื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏซีเรีย ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหว
สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ บอกว่า วิกฤตด้านมนุษยธรรมอาจยืดเยื้อยาวนานเป็น 2 ปี และองค์กรจะประกาศระดมความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าสำหรับทั้งสองประเทศ
ด้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย แถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันพฤหัสบดีเป็นครั้งแรกหลังแผ่นดินไหว โดยบอกว่า "ขนาดของภัยพิบัติและภารกิจที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบต้องอาศัยทรัพยากรมากเกินกว่าที่มีในประเทศ และขอบคุณประเทศต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึง “พี่น้องชาติอาหรับและมิตรประเทศ"