เปิดทฤษฎีสมคบคิด โครงการวิจัยสหรัฐอยู่เบื้องหลังแผ่นดินไหวตุรกี!

Key points:

• โครงการวิจัยพลังงานลำแสงออโรราจากความถี่สูง (HAARP) ของสหรัฐถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย
• บางคนเชื่อว่าเป็นการลงโทษตุรกีที่ไม่ยอมรับสมาชิกใหม่ของนาโต 
• ช่วงโควิดหลายโพสต์บนเฟซบุ๊กอ้างว่า เป็นตัวปล่อยโคโรนาไวรัส

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน มีข้ออ้างมาเสมอว่าโครงการวิจัยพลังงานลำแสงออโรราจากความถี่สูง (High-frequency Active Auroral Research Program:HAARP) ของสหรัฐที่มีสถานีวิจัยในอะแลสกา มีเสาวิทยุ 180 ต้น ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลวอชิงตัน เป็นการใช้ชั้นบรรยากาศเป็นอาวุธคอยกดขี่ประชาชน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่เป็นความจริง

ล่าสุด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรกีและซีเรีย เมื่อวันที่ 6 ก.พ. คร่าชีวิตประชาชนหลายหมื่นคนทำให้กระแสนี้ผุดขึ้นอีกครั้งในโซเชียลมีเดียหลายประเทศ แม้ผู้เชี่ยวชาญเมินว่าเป็นแค่นิยายวิทยาศาสตร์

ข้ออ้างสติแตก

ชาวเน็ตบางคนอ้างว่าเกิดฟ้าแลบแปลบปลาบก่อนแผ่นดินไหว เป็นหลักฐานว่านี่คือสิ่งที่ HAARP สร้างขึ้น บ้างก็ว่า เป็นการลงโทษตุรกีที่ไม่ยอมรับสมาชิกใหม่ขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

“นี่มันสติแตกมาก เหมือนกับการถามว่า แผ่นดินไหวเกิดจากบักส์บันนีกำลังขุดหาแครอทใช่มั้ย ไม่มีกลไกที่ทราบแน่ชัดจากหน่วยงานห่างไกลอย่าง HAARP ที่จะส่งผลต่อแผ่นดินไหวได้” เดวิด คีธ อาจารย์ฟิสิกส์ประยุกต์ วิทยาลัยวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ประยุกต์แห่งฮาร์วาร์ดให้ความเห็น

HAARP ส่งคลื่นวิทยุไปให้ความร้อนแก่อิเล็กตรอนในบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งเป็นบรรยากาศโลกชั้นบนสุดเพื่อศึกษาผลกระทบต่อระบบสื่อสาร คลื่นนี้ไม่ใหญ่พอไปถึงตุรกี ส่วนแผ่นดินไหวมีสาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก

ผู้เชี่ยวชาญบอกด้วยว่า ฟ้าแลบเห็นได้ทั่วไประหว่างเกิดแผ่นดินไหว บางคนบอกว่า ฟ้าแลบเกิดจากสายไฟหรือสถานีส่งไฟฟ้าสั่นสะเทือนเพราะแผ่นดินไหว

ในอดีต HAARP เคยดำเนินการโดยกองทัพอากาศและกองทัพเรือสหรัฐ ต่อมาปี 2558 ได้ส่งมอบให้กับมหาวิทยาลัยอะแลสกาแฟร์แบงก์ส

ไมเคิล ล็อกวูด อาจารย์ด้านฟิสิกส์สภาพแวดล้อมอวกาศ มหาวิทยาลัยรีดดิง อธิบายเสริม ข้ออ้างที่ว่า HAARP ถูกใช้เป็นอาวุธอาจมาจากช่วงต้นของโครงการใช้คลื่นวิทยุสื่อสารกับเรือดำน้ำ ซึ่งฟังค์ชันนี้ล้าสมัยไปแล้วหลังสงครามเย็น

ประวัติศาสตร์นี้ “ทำให้เกิดแนวคิดเหลวไหลว่า HAARP เป็นอาวุธรูปแบบหนึ่ง การบอกว่า เป็นการใช้เพื่อควบคุมความคิดของสังคมถูกพูดถึงอยู่เสมอ แต่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวเนี่ย ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน” ล็อกวูดย้ำ

ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โพสต์จำนวนมากบนโซเชียลมีเดียอ้างว่า HAARP ถูกใช้สร้างพายุและคลื่นความร้อน เป้าหมายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เปิดช่องให้ทางการควบคุมกิจกรรมของประชาชนได้ หรือกระทั่งลดจำนวนประชากร

บ้างก็อ้างว่า สิทธิบัตรรายการหนึ่งที่ขอจดสำหรับเครื่องมือให้ความร้อนชั้นบรรยากาศจริงๆ แล้วเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร

เอกสารปี 1985 ช่วงที่สงครามเย็นระอุสุด อ้างว่า เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ “ทำลายล้างขีปนาวุธหรือเครื่องบิน” หรือ “ปรับแต่งสภาพอากาศ” ได้ แต่สิทธิบัตรนี้หมดอายุไปแล้วและไม่มีหลักฐานว่ามีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้อีก

ในความเป็นจริงเครื่องส่งของ HAARP ส่งคลื่นวิทยุได้ 80 กิโลเมตร-กว่า 500 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก สูงเกินกว่าสัญญาณจะส่งผลต่ออากาศหรือสภาพภูมิอากาศ

“ความคิดที่ว่ามีเทคโนโลยีทำให้เกิดสภาพอากาศรุนแรงช่างไร้สาระ ในทางเทคนิคมันยากสุดๆ ที่จะทำอะไรกับระบบที่ใหญ่ ซับซ้อน และโกลาหลมากอย่างสภาพอากาศได้” เอลลา กิลเบิร์ต นักอุตุนิยมวิทยาจากสำนักงานสำรวจแอนตาร์กติกของอังกฤษกล่าวกับเอเอฟพี

 

บิดเบือนปล่อยโควิด

โพสต์อื่นๆ อ้างว่า สัญญาณจาก HAARP สามารถมาถึงโลก ป่วนระบบสื่อสารและไฟฟ้า แม้กระทั่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน

เดวิด ไฮเซลล์ อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โลกและชั้นบรรยากาศ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ อธิบายว่า HAARP ไม่ได้มีอันตรายไปกว่าสถานีส่งไฟฟ้าหรือสถานีวิทยุ

นักวิจัยพบความคล้ายคลึงกันระหว่างข้อกล่าวหา HAARP กับกระแสทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับการสื่อสาร5จี ที่ผุดขึ้นมาช่วงโควิด-19 ระบาด

ตอนนั้นหลายโพสต์บนเฟซบุ๊คมีคนอ่านหลายล้านอ้างว่า โชว์ภาพยานจาก HAARP กำลังปล่อยรังสี 5จี บรรจุไวรัสโควิด

หลายโพสต์โชว์ภาพวัตถุบินได้ลำหนึ่งทิ้งรอยทางจากการควบแน่นเอาไว้ข้างหลัง การวิเคราะห์ของ AFP Fact Check ชี้ว่า เป็นภาพตัดต่อ

“ผมไม่รู้ว่าทฤษฎีสมคบคิดทั้งหลายเกี่ยวกับ HAARP มาจากไหน ผมคิดว่าผู้คนคงสับสนกับวัตถุประสงค์การวิจัยของ HAARP ซึ่งเป็นการศึกษาอันตรายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในอวกาศด้วยการดำเนินงานของศูนย์เอง” ไฮเซลล์สรุปทิ้งท้าย