อ่านให้ชัด! แผนสันติภาพจีน 12 ข้อกับท่าทีคู่ขัดแย้ง วิกฤติ รัสเซีย-ยูเครน
หลังจากมีข่าวมาหลายวัน จีนเสนอจุดยืนทางการเมือง 12 ข้อต่อวิกฤติยูเครน ที่หลายฝ่ายจับตาว่า จีนกำลังแสดงบทบาทสำคัญต่อความขัดแย้งนองเลือดที่สุดในยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
Key points:
- จีนเสนอจุดยืนทางการเมือง 12 ข้อต่อวิกฤติยูเครน ที่ถูกมองว่าเป็นแผนการสันติภาพ
- แผนไม่มีการระบุว่า รัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน ทั้งยังประณาม “การคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียว”
- ยูเครนตอนแรกไม่สนใจ ต่อมาประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีเผย อาจนำบางข้อไปพิจารณา
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ชี้ไม่เห็นประโยชน์จากแผน มีแต่เอื้อรัสเซีย
ในวันที่ 24 ก.พ.2566 ซึ่งเป็นวันครอบรอบหนึ่งปีสงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทรวงการต่างประเทศจีนเสนอ “จุดยืนทางการเมืองของจีนต่อวิกฤติยูเครน” ที่สื่อต่างชาติเรียกว่า “แผนสันติภาพ” ประกอบด้วยเนื้อหา 12 ข้อสรุปได้ดังนี้
1. เคารพอธิปไตยของทุกประเทศ
2. ละทิ้งแนวคิดสงครามเย็น
3. ยุติการสู้รบ
4. รื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพ
5. แก้ไขวิกฤติด้านมนุษยธรรม
6. คุ้มครองพลเรือนและเชลยศึก
7. ดูแลความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
8. ลดความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์
9. อำนวยความสะดวกการส่งออกธัญญาหาร
10. หยุดการคว่ำบาตรโดยลำพังฝ่ายเดียว
11. รักษาความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน
12. ผลักดันการบูรณะฟื้นฟูหลังสงคราม
ปฏิกิริยาจากยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า แผนการดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการตอกย้ำท่าทีของจีน ที่มีมาตลอดนับตั้งแต่รัสเซียเริ่ม “ปฏิบัติการทางทหาร” ตามคำเรียกของรัฐบาลมอสโก เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปีก่อน ซึ่งจีนไม่เคยประณามรัสเซียหรือเรียกการกระทำของมอสโกว่า “การรุกราน” ทั้งยังวิจารณ์การคว่ำบาตรรัสเซียของตะวันตกด้วย
ตอนแรกรัฐบาลเคียฟเมินเฉยกับข้อเสนอของจีน ที่ปรึกษาอาวุโสรายหนึ่งของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า แผนยุติสงครามต้องระบุถึงการถอนทหารรัสเซียกลับไปยังชายแดนที่กำหนดไว้ตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตัวเซเลนสกีมีท่าทีตอบรับแผนการของจีนมากขึ้น เห็นได้จากการแถลงข่าวครบรอบหนึ่งปีความขัดแย้ง เขากล่าวว่าตนเองเปิดกว้างรับส่วนหนึ่งของแผนการจีนมาพิจารณา
“ผมอยากจะเชื่อจริงๆ ว่า จีนจะไม่จัดหาอาวุธให้รัสเซีย” เซเลนสกีกล่าว
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า แผนการของจีนเรียกร้องสันติภาพและเคารพอธิปไตยของชาติ แต่ไม่มีการระบุว่า รัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน ทั้งยังประณาม “การคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียว” ซึ่งถูกมองว่าเป็นการวิจารณ์พันธมิตรตะวันตกของยูเครน
ถึงบัดนี้ทางการจีนก็ไม่เคยตอบรับออกสื่อถึงเสียงเรียกร้องของเซเลนสกีที่ต้องการพบกับสีจิ้นผิง
รัสเซียปลื้ม-นาโตไม่เชื่อน้ำยา
รัสเซียปลาบปลื้มกับแผนการสันติภาพของจีน ที่เปิดโอกาสให้บรรลุเป้าหมายผ่านวิถีทางการเมืองและการทูต กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประกาศ “เรามีมุมมองแบบเดียวกับปักกิ่ง”
แต่ข้อเสนอของจีนไม่สามารถเปลี่ยนใจองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้
“จีนไม่มีความน่าเชื่อถือมากมายเพราะพวกเขาไม่สามารถประณามการรุกรานยูเครนอย่างผิดกฎหมายได้” เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตกล่าวในกรุงทาลลินน์ของเอสโตเนีย
ห้ามมีสงครามนิวเคลียร์
แม้ปีที่ผ่านมาจะเสียหายหนักหลายครั้ง แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังส่งสัญญาณเพิ่มความขัดแย้งถึงขนาดขู่ว่าอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งจีนกล่าวว่า นั่นคือสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง
“ต้องไม่มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์และไม่มีการทำสงครามนิวเคลียร์ เราต่อต้านการใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ ไม่ว่าจะโดยประเทศใดภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม” กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุชัด
ข้อน่าสังเกตคือสงครามครั้งนี้เริ่มขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังรัฐบาลปักกิ่งและมอสโกประกาศความเป็นพันธมิตร “อย่างไม่มีขีดจำกัด” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงพูดคุยกับปูตินเสมอ แต่ไม่เคยคุยกับเซเลนสกีเลยสักครั้ง แถมไม่กี่วันก่อนหวัง อี้ เบอร์หนึ่งด้านการต่างประเทศจีนเพิ่งไปเจอกับปูตินที่มอสโก
ความเห็นจากบราซิล
อีกหนึ่งตัวละครที่ปรากฏขึ้นคือลูอิซ อินาชิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีคนใหม่ของบราซิล ย้ำถึงความจำเป็นของแผนสันติภาพที่ให้คนนอกความขัดแย้งดำเนินการ
“เป็นเรื่องเร่งด่วนที่กลุ่มประเทศไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง รับผิดชอบนำการเจรจาเพื่อสถาปนาสันติภาพขึ้นมาอีกครั้ง” ลูลากล่าวผ่านทวิตเตอร์
ไบเดนชี้แผนจีนเอื้อประโยชน์รัสเซีย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์เอบีซีนิวส์ ในวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น ในวาระสงครามครบรอบหนึ่งปี ว่าแนวคิดที่จีนจะเป็นผู้เจรจาผลลัพธ์ของสงครามยูเครนนั้นไม่สมเหตุสมผล
“(ประธานาธิบดีวลาดิมีร์) ปูตินของรัสเซียปรบมือให้ แล้วมันจะดีได้ยังไง ผมไม่เห็นว่าแผนจะมีประโยชน์กับใครมากไปกว่ารัสเซีย ถ้าปฏิบัติตามแผนจีน”
นอกจากนี้ไบเดนยังย้ำว่า เขาจะไม่ส่งเครื่องบิน F-16 ให้ยูเครนในตอนนี้เพราะยังไม่จำเป็น
ส่วนตัวประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่มีการคาดการณ์กันมากว่าเขาจะแถลง “สุนทรพจน์สันติภาพ” ในวันศุกร์ เอาเข้าจริงกลับไม่ได้แถลง