'คาซัคสถาน'เปิดฉากเลือกตั้ง ส.ส.-สภาท้องถิ่น

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวคาซัคสถานราว 12 ล้านคนออกไปใช้สิทธิได้ตั้งแต่เวลา 7.00 น. - 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 8.00 น. -21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

การเลือกตั้งครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อาทิ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่ผู้สมัครอิสระสามารถลงเลือกตั้ง ส.ส.ได้มีพรรคการเมืองลงแข่งขันกัน 7 พรรค จากสภาชุดก่อนที่ประกอบด้วย 3 พรรคพรรคการเมืองต้องได้คะแนนเสียงขั้นต่ำ 5% จากเดิม 7% จึงจะได้เข้าสภาซึ่งประกอบด้วย ส.ส. 98 คน อีกทั้งยังมีการกำหนดโควตา 30% ให้กับผู้หญิง คนหนุ่มสาว และคนพิการ

 

 

ประเทศใหญ่โตร่ำรวยน้ำมันแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างรัสเซีย เจ้าพ่ออดีตสหภาพโซเวียตกับจีน คาซัคสถานกำลังทวีสถานะมหาอำนาจเศรษฐกิจในเอเชียกลาง ประธานาธิบดีคัสซิม โจมาร์ต โตกาเยฟ จัดให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด โดยให้เหตุผลว่า เป็นส่วนหนึ่งของ “การปรับประเทศให้ทันสมัย” หลังการประท้วงน้ำมันแพงเมื่อเดือน ม.ค.ปีก่อน ทางการรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 238 คน

 

 

โตกาเยฟ อดีตนักการทูตได้รับเลือกจาก “ลูกพี่” อดีตประธานาธิบดีนูร์ซุลตัน นาร์ซาบาเยฟ ให้สืบทอดอำนาจต่อในปี 2562 หลังนาร์ซาบาเยฟปกครองประเทศมาเกือบ 30 ปี แต่เมื่อประชาชนออกมาประท้วงโตกาเยฟได้กวาดล้างร่องรอยอำนาจของลูกพี่เก่าออกไป พร้อมให้คำมั่นปฏิรูปหน่วยงานรัฐบาล ยุบสภาเมื่อเดือน ม.ค.“เพื่อสร้างแรงผลักดันใหม่สู่ความทันสมัย”

การเลือกตั้งคาซัคสถานตอนนี้แม้มีผู้สมัครหลากหลาย แต่ประชาชนยังสงสัยว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือไม่

 “ผมจะไปเลือกตั้งมั้ย? ไม่ พูดตรงๆ เลย เพราะผมไม่เชื่อว่า การเลือกตั้งจะเป็นธรรม” อาเส็ต สมากูลอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีวัย 21 ปี ในเมืองอัลมาตีกล่าวกับเอเอฟพี

ดิแมช อัชชานอฟ นักรัฐศาสตร์กล่าวว่า ชนชั้นนำในรัฐบาลยังคงควบคุมการเลือกตั้ง แม้มีการเปลี่ยนแปลง

“ระบบเลือกตั้งเปลี่ยนมีตัวเลือกหลากหลายขึ้น แต่ในความเป็นจริงประธานาธิบดีและรัฐบาลยังคุมคะแนนเสียงในมือที่นี่ การเลือกตั้งจัดขึ้นก็เพื่อรักษาอำนาจ นั่นคือการเลือกตั้งในประเทศอำนาจนิยม” นักวิชาการให้ความเห็น

อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหนุ่มสาวก็ยินดีที่มีผู้สมัครหน้าใหม่ๆ

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นพรรคการเมืองใหม่ๆ และผู้สมัครอิสระในการเลือกตั้ง ส.ส. สำหรับฉันนี่คือสิ่งใหม่” อาเดีย อาบูบาคีร์ กราฟฟิกดีไซเนอร์วัย 20 ปีกล่าว

อังเดร เชโบตาเรฟ นักวิเคราะห์การเมือง ในอัลมาตีประเมินว่า น่าจะได้พรรคการเมือง 4 หรือ 5 พรรค โดยพรรคอามานัตของประธานาธิบดียังคงครองเสียงข้างมาก

“แต่การมีพรรคหลากหลายจะส่งผลต่อการยอมรับผลการเลือกตั้ง ทั้งสำหรับประชาชนและประชาคมโลก” นักวิเคราะห์สรุป