ไต้หวันแห่ซื้ออาร์ม ‘หมีพูห์โดนต่อยหน้า’ ล้อเลียน 'สี จิ้นผิง'
ชาวไต้หวันแห่ซื้ออาร์มที่นักบินกองทัพอากาศนิยมใช้ ภาพหมีดำฟอร์โมซาชกหน้าหมีพูห์ ซึ่งหมายถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความท้าทายต่อการซ้อมรบของจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน หลังจากหลายปีก่อน วินนี เดอะ พูห์ ผลงานของ A.A. Milne นักเขียนชาวอังกฤษ ถูกชาวเน็ตนำมาใช้เป็นมีม เปรียบเทียบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทางการจีนก็เซ็นเซอร์ภาพนี้อย่างเข้มงวด แต่นายอเล็ก ซู ชาวไต้หวัน ผู้ออกแบบอาร์มติดเสื้อที่กำลังเป็นไวรัล ขายอาร์มที่ร้านมาตั้งแต่ปีที่แล้ว พบว่าช่วงนี้ออเดอร์พุ่งมาก หลังสำนักข่าวทหารไต้หวันเผยแพร่ภาพเมื่อวันเสาร์ (8 เม.ย.) นักบินรายหนึ่งติดอาร์มชิ้นนี้ขณะตรวจตราเครื่องบินรบ
อาร์มยอดฮิตเป็นรูปหมีดำฟอร์โมซาถือธงชาติไต้หวันกำลังโกรธจัดแล้วต่อยหน้าหมีพูห์ พร้อมสโลแกน“Scramble!” หมายถึงการนำเครื่องบินขึ้นสกัดกั้นเครื่องบินลำอื่นอย่างรวดเร็ว ที่นักบินไต้หวันต้องทำถี่ขึ้นช่วงสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากจีนส่งเครื่องบินเข้ามาในเขตแสดงตนทางอากาศไต้หวันมากขึ้น
“ผมต้องการใช้การออกแบบอาร์มเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารของเรา” ซู เจ้าของร้านWings Fan Goods Shop กล่าวและว่า เขาสั่งอาร์มมาเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้น ลูกค้ามีทั้งทหารและพลเรือน
ทั้งนี้ หมีดำฟอร์โมซาซึ่งใกล้สูญพันธุ์ถูกมองว่า เป็นสัญลักษณ์แห่งอัตลักษณ์ไต้หวัน ก่อนหน้านี้โลกรู้จักไต้หวันในชื่อฟอร์โมซา
สถานทูตไต้หวันโดยพฤตินัยในสหรัฐทวีตข้อความรับลูกเมื่อวันจันทร์ (10 เม.ย.)
“หาซื้ออาร์มแบบนั้นได้ที่ไหนนะ! รับรอง ขายดีแน่!”
ด้านกองทัพอากาศไต้หวันเผยกับรอยเตอร์ว่า ไม่ได้ “เจาะจงส่งเสริม” ให้สมาชิกติดอาร์มที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ แต่ “ยังคงเปิดกว้าง” สำหรับทุกสิ่งที่ช่วยสร้างขวัญกำลังใจ
จีนนั้นอ้างว่า ไต้หวันที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นดินแดนของตน และไม่ตัดประเด็นการใช้กำลังยึดครอง แต่รัฐบาลประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ปฏิเสธการอ้างอธิปไตยของจีนว่า มีเพียงประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่จะตัดสินอนาคตของพวกเขา
ส่วนบนโลกออนไลน์ขณะที่อาร์มหมีพูห์ไม่มีปรากฏบนโซเชียลมีเดียจีน รัฐบาลปักกิ่งโปรโมตวีดิโอและความเห็นเกี่ยวกับการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันแทน โดยกองบัญชาการภาคตะวันออก กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งจะเป็นแนวหน้าในปฏิบัติการทางทหารต่อไต้หวัน เผยแพร่วีดิโอบรรยากาศซ้อมรบ ดนตรีประกอบเร้าใจ คลิปนี้พุ่งเป้าผู้ชมชาวไต้หวันด้วยการใช้อักษรจีนแบบดั้งเดิมที่ยังใช้กันอยู่ในไต้หวันแต่จีนแผ่นดินใหญ่ไม่ใช้แล้ว