‘ออสเตรเลีย’ เตรียมแบน ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ห่วงคนรุ่นใหม่ติดนิโคตินมากขึ้น
ออสเตรเลียเตรียมปฏิรูปกฎหมายต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากขึ้น หลังพบว่า คนรุ่นใหม่หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ออสเตรเลียเตรียมการปฏิรูปกฎหมายต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งการห้ามใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งทั้งหมด, การปราบปรามการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใบสั่งแพทย์ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกกฎหมายจำเป็นต้องมีใบสั่งแพทย์, บุหรี่ไฟฟ้าต้องมีบรรจุภัณฑ์คล้ายยา ทั้งยังมีมาตรการควบคุมรสชาติ สี ความเข้มข้มของนิโคติน และส่วนผสมอื่น ๆ ร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม “มาร์ก บัตเลอร์” รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า รัฐบาลจะทำให้ผู้คนได้รับใบสั่งแพทย์เพื่อใช้รักษาตามกฎหมายได้ง่ายขึ้น ส่วนช่วงเวลาประกาศใช้กฎหมายจะประกาศในภายหลัง
ประเทศอื่น ๆ หลายแห่ง เช่น สิงคโปร์และไทย มีกฎหมายห้ามให้บุหรี่ไฟฟ้าเช่นกัน สำนักงานบริหารเวชภัณฑ์ของออสเตรเลียจึงแนะนำให้มีการปฏิรูปกฎหมายต่อต้านบุหรี่
สถาบันโรคมะเร็งแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า การปฏิรูปกฎหมายสามารถลดการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าได้ และช่วยป้องกันไม่ให้ประวัตศาสตร์ซ้ำรอยกับคนรุ่นใหม่
แต่นักการเมือง อุตสาหกรรมต่าง ๆ และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางคน บอกว่า ออสเตรเลียควรผ่อนปรนกฎหมายดังกล่าว
“เดวิด ลิตเติลพราว” ผู้นำพรรคเนชันนอล โต้แย้งไว้ก่อนหน้านี้ว่า ออสเตรเลียควรทำตามแนวทางของนิวซีแลนด์และควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนควบคุมบุหรี่ทั่วไป ส่วนคนอื่น ๆ มีความกังวลว่า มาตรการควบคุมที่เข้มงวดอาจทำให้ผู้คนหันเข้าตลาดผิดกฎหมายที่ไม่สามารถควบคุมได้
ปัจจุบันการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในออสเตรเลียต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่อุตสาหกรรมนี้ควบคุมยากและตลาดมืดก็รุ่งเรืองมาก
ทั้งนี้ บุฟรี่ไฟฟ้า จัดว่าเป็นบุหรี่ที่มีความปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป เพราะไม่มีส่วนผสมจากยาสูบที่เป็นอันตราย รัฐบาลอังกฤษถึงกับแจกฟรีให้ผู้สูบบุหรี่บางคน ในนามโครงการเปลี่ยนเพื่อหยุด (swap to stop) เพื่อให้รณรงค์เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ให้คำแนะนำว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยง เพราะบรรจุสารเคมีไว้ แต่ผลกระทบในระยะยาวยังไม่ชัดเจนนัก
รัฐบาลออสเตรเลีย โต้แย้งว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพประชาชน และส่งผลกระทบต่อคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน
ผลวิจัย ชี้ว่า ชาวออสเตรเลีย 1 ใน 6 ของช่วงอายุ 14-17 ปีและ 1 ใน 4 ของคนอายุ 18-24 ปีมีบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครอง ขณะที่บัตเลอร์เผยว่า คนอายุรุ่นเขา (52 ปี) เพียง 1 ใน 70 เท่านั้นที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า
บัตเลอร์บอกว่า บุหรี่ไฟฟ้า มีเป้าหมายลูกค้าเป็นเด็ก ๆ และมีจำหน่ายใกล้ ๆ กับอมยิ้มและแท่งช็อคโกแลตในร้านค้าต่าง ๆ และว่า บุหรี่ไฟฟ้าคือ ปัญหาพฤติกรรมอันดับหนึ่งในโรงเรียนมัธยมศึกษา จนโรงเรียนบางแห่งต้องติดตั้งเครื่องตรวจจับบุหรี่ไฟฟ้าในห้องน้ำ