‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ วิจารณ์แรง รบ.สหรัฐ สร้างโรคติดต่อความกลัว หลังแบงก์ล้ม
“วอร์เรน บัฟเฟตน์” วิจารณ์ทางการสหรัฐรับมือวิกฤติภาคการเงินประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ชี้การปรับเพดานหนี้ให้สูงขึ้นอีก อาจนำไปสู่ความปั่นป่วนอีกระลอก
ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทเบิร์กเชียร์แฮทาเวย์ เป็นกลุ่มบริษัทโฮลดิ้งข้ามชาติเมื่อวันเสาร์ (6 พ.ค.) บัฟเฟตน์ วัย92ปี ซึ่งเป็นประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเบิร์กเชียร์ได้วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐ และหน่วยงานที่กำกับดูแลภาคการเงิน ในการรับมือกับวิกฤติแบงก์ล้ม อย่าง ซิลิคอน วัลเลย์, ซิกเนเจอร์แบงก์ และเฟิร์ทรีพับลิกแบงก์ โดยระบุว่า “แย่มาก” ที่ทำให้ผู้ฝากเงินเกิดภาวะความหวาดกลัวโดยไม่จำเป็น
“ความกลัวเป็นโรคติดต่อ” วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวและเสริมว่า คุณไม่สามารถบริหารเศรษฐกิจไปข้างหน้าได้ เพราะทำให้ผู้คนกังวลว่าเงินในธนาคารของพวกเขาจะปลอดภัยหรือไม่
บัฟเฟตต์พูดในที่ประชุมถือหุ้นฯเป็นเวลาหลายชั่วโมง หลังจากเบิร์กเชียร์ประกาศผลกำไรประจำไตรมาสอยู่ที่ 35,500 ล้านดอลลาร์ และสามารถซื้อหุ้นตนเองคืน 4,400 ล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทขายหุ้นของบริษัทอื่นๆ มูลค่า 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บัฟเฟตน์เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 6 ของโลกตั้งแต่ปี 2518 โดยเขาได้บริหารบริษัทเบิร์กเชียร์ซึ่งมีธุรกิจมากมาย เช่น ประกันภัยรถยนต์,รถไฟ และผลิตภัณฑ์อาหารเดลีควีน โดยเบิร์กเชียร์ยังเป็นเจ้าของหุ้นมูลค่า 3.28 แสนล้านดอลลาร์ เกือบครึ่งหนึ่งของแอ๊ปเปิ้ลอิงค์