นักวิเคราะห์ต่างชาติดูออก การเมืองไทยไม่ปกติ ก้าวไกลยังเจออุปสรรคเพียบ

ศาสตราจารย์ดันแคน แมกคาร์โก ผู้อำนวยการสถาบันนอร์ดิกแห่งเอเชียศึกษา มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเอเชียทูไนท์ ของแชนแนล นิวส์ เอเชีย ว่า สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ 500 คน จะต้องลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาอีก 250 คน ที่แต่งตั้งจากนายพลทหารที่ทำรัฐประหาร

ศาสตราจารย์แมกคาร์โก ระบุว่า รัฐบาลชุดใหม่ต้องรวมเสียงข้างมากในสภาให้ได้ เพื่อมีเสียงลงคะแนนเลือกนายกฯ ให้ได้มากกว่าเสียงของส.ว. 

“ถ้าประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกติทั่วไป คุณคงคาดเดาได้ว่า พรรคฝ่ายค้านสองพรรค ที่มีที่นั่งในรัฐสภามากกว่าอดีตรัฐบาล อาจอยู่ในฐานะที่รวมพรรคจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ผลลัพธ์ไม่ได้ออกมาเป็นเช่นนั้น ผมก็อยากเชื่อว่ามันควรเป็นแบบนั้น แต่ค่อนข้างมีอุปสรรคมากมาย ที่อาจทำให้ผลลัพธ์มันแตกต่างออกไปจากที่มันควรจะเป็น” ศาสตราจารย์แมกคาร์โก กล่าว

ศาสตราจารย์ดันแคน แมกคาร์โก

การเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย

“ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า สถานการณ์การเมืองสำหรับพรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้เป็นไปในเชิงบวกมากนัก

“ตอนนี้ดูเหมือนว่าสมาชิกวุฒิสภา เอาแต่คาดหวังให้ พรรคการเมืองต่างๆ จัดตั้งรัฐบาลให้ได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา จึงสร้างความกดดัน และเพิ่มความรับผิดชอบมากขึ้น ให้กับสมาชิกรัฐสภาด้วยกันเอง รวมถึงพรรคก้าวไกล นั่นหมายความว่า ส.ว.อาจไม่เต็มใจเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล” ปองขวัญ กล่าว

ปองขวัญ บอกอีกว่า พรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะแสดงให้เห็นว่า ประชาชนรอคอยการเปลี่ยนแปลง

“เรามีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นเรื่องชัดเจนว่า ประชาชนพอแล้วกับรัฐบาลทหาร” ปองขวัญ ย้ำ

แต่สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ พรรคก้าวไกลกลับชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก 

ปองขวัญ เผยว่า “ผลการเลือกตั้งเป็นที่กระจ่างว่า คนรุ่นใหม่ และประชาชนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศอยากก้าวข้ามความขัดแย้ง และอยากให้ประเทศก้าวหน้ามากกว่าถูกแช่แข็งตามที่ฝ่ายอนุรักษนิยมต้องการ” 

ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์

โอกาสยุบพรรคการเมือง

ศาสตราจารย์แมกคาร์โก กล่าวว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ได้เห็นโลกทัศน์ที่แตกต่างกันมากระหว่างประชาชนที่อายุต่ำกว่า 30 ปี และประชาชนที่อายุมากกว่า 30 ปี” และย้ำว่า แม้กลุ่มสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านรวมรัฐบาลได้ แต่หลายพรรคที่จัดตั้งสามารถโดนยุบพรรค และส.ส.อาจถูกปลดได้เช่นกัน

“ประเทศไทยยุบพรรคการเมืองมากกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ภัยคุกคามแบบนี้ยังคงมีอยู่เสมอ พรรคก้าวไกลที่มาแทนที่พรรคอนาคตใหม่อาจโดนยุบก็ได้ เพื่อไทยก็อาจโดนยุบ ไม่ว่าพรรคได้ก็ตามมีสิทธิโดนยุบเช่นกัน การเมืองไทยมีความซับซ้อน กำกวม ระเบียบการเลือกตั้งก็คลุมเครือ เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองในไทยอาจโดนฟ้องร้องได้” ศาสตราจารย์แมกคาร์โก กล่าว และว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้นำพรรคก้าวไกล ก็ถูกขู่ฟ้องข้อหาถือหุ้นสื่อไปแล้ว

ส่วนปองขวัญ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ อาจล่าช้ากว่า 60 วัน ระหว่างนี้อาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้ และการเมืองไทยยังมีพรรคฝ่ายอนุรักษนิยม และทหาร ที่พยายามทำให้หลายอย่างล่าช้าออกไป เราต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 60 วันหลังจากนี้ หรือแม้แต่หลังการรวมพรรครัฐบาล อาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้

“เรามีส.ว. เรามีคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรามีศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่ง 3 อย่างนี้ ล้วนเป็นเครื่องมือที่สามารถกลับมาต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย” ปองขวัญ ทิ้งท้าย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์