‘โตโยต้า’ เปิดโรดแมปผลิตแบตเตอรี - รถยนต์อีวี หนุนราคาหุ้นพุ่งสูง
โตโยต้า เตรียมแนะนำผลิตภัณฑ์แบตเตอรีโซลิดสเตตประสิทธิภาพสูงและเทคโนโลยี ยกระดับศักยภาพการขับขี่และลดค่าใช้จ่ายรถยนต์อีวีแห่งอนาคต มุ่งสร้างจุดเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ หนุนราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น
โตโยต้า บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เผยแผนงานด้านเทคโนโลยีทุกแง่มุม ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาแบตเตอรี่รุ่นต่อไป และการออกแบบโรงงานใหม่ทั้งหมด หวังเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีคู่แข่งสำคัญนั่นคือ “เทสลา”
แผนดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ซึ่งเป็นผู้กำหนดและควบคุมกลยุทธ์ รวมถึงเปลี่ยนแผนการผลิตไปสู่รถยนต์อีวีแบบช้าๆ
หุ้นโตโยต้า บริษัทผลิตรถยนต์ขายดีที่สุดในโลกพุ่งขึ้น 5% ในวันนี้ สู่ราคา 2,173 เยน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
โตโยต้ามีเป้าหมายเปิดตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นต่อไปในปี 2669 ซึ่งจะทำให้รถยนต์อีวีวิ่งได้ไกลขึ้นและชาร์จแบตได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ โตโยต้ายังประกาศความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เพิ่มการทนทานของแบตเตอรี่แบบโซลิตสเตต และหนทางการผลิตให้ได้จำนวนมาก โดยตั้งเป้าจำหน่ายในช่วงปี 2570 - 2071
ถึงอย่างไรนั้น แบตเตอรี่ชนิดนี้ก็ยังมีราคาแพงและมีแนวโน้มจะเป็นแบบนี้ไปอีกหลายปี แต่โตโยต้าได้นำเสนอแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟตที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบตเตอรี่ไอออนที่ใช้ในรถยนต์อีวีในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โตโยต้ายืนยันเป็นตลาดรถระดับไฮเอนด์ โดยย้ำว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,000 กม. (621 ไมล์) เมื่อเปรียบเทียบกับเทสลา Model Y ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รุ่นขับระยะไกล ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก สามารถขับได้ประมาณ 530 กม. ตามมาตรฐานสหรัฐ
โตโยต้าขายรถยนต์ได้เกือบ 10.5 ล้านคันในปี 2565 และมีมูลค่าตลาดประมาณ 2.54 แสนล้านดอลลาร์ ในทางตรงกันข้าม เทสลามีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 7.91 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อศักยภาพการเติบโตเทสลา
อย่างไรก็ตาม โตโยต้าต้องการนำเสนอทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยรถยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฮบริดที่ใช้น้ำมันเบนซินและเชื้อเพลิงไฮโดรเจน รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน