‘สี จิ้นผิง’ ปรับใหญ่กองกำลังจรวด ครบรอบวันสถาปนากองทัพจีน

‘สี จิ้นผิง’ ปรับใหญ่กองกำลังจรวด ครบรอบวันสถาปนากองทัพจีน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน แต่งตั้งผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการกองกำลังจรวดคนใหม่ ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ ที่เลื่อนตำแหน่งนายพล 2 นาย ในกองกำลังเดียวกันและการแต่งตั้งครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการล้างบางภายในฝ่ายบริหารระดับสูงของจีน

 ประธานาธิบดีสี ซึ่งควบตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง (Central Military Commission) หรือ CMC แหวกธรรมเนียมปฎิบัติด้วยการแต่งตั้ง“หวัง หูปิ่น”อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพเรือ เป็นผู้บัญชาการกองกำลังจรวด (Rocket Force) และ“ซวี่ สีเชิง”รองผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธวิธีภาคใต้ เป็นรองผู้บัญชาการ

การแต่งตั้งครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำกระแสข่าวลือที่ต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ว่า ผู้บัญชาการและรองบัญชาการชุดเดิม ที่ควบคุมกองกำลังจรวด นิวเคลียร์และขีปนาวุธตามรูปแบบ (conventional missiles) และมีบทบาทสำคัญทางยุทธศาสตร์กำลัง “ถูกสอบสวน” 

ข่าวลือที่แพร่สะพัดในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ระบุว่า พลเอกหลี่ หยูเจ้า ผู้บัญชาการกองกำลังจรวด ถูกพาตัวไปสอบสวนเมื่อเดือนมิ.ย. ฐานต้องสงสัยเกี่ยวกับการ “จารกรรม” โดยมีลูกชายของเขาที่กำลังศึกษาอยู่ที่สหรัฐฯ เกี่ยวข้องด้วย และพลเอกหลี่ ก็หายตัวไป ไม่ได้เข้าร่วมในพิธีเลื่อนตำแหน่งของกองกำลังจรวดเมื่อเดือนมิ.ย.ด้วย
 

ดร. เจมส์ ชาร์ ซึ่งศึกษาความทันสมัยของกองทัพจีนจาก S. Rajaratnam School of International Studies ให้ความเห็นว่า พัฒนาการที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ที่จับตากองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน หรือ PLA พากันประหลาดใจ เมื่อพิจารณาจากการแต่งตั้งผู้บัญชาการก่อนหน้านี้ 3 คน คือ เว่ย เฟิงเหอ, โจว เหยียนหนิง และหลี่ หยูเจ้า ที่ล้วนมาจากกองบัญชาการทหารปืนใหญ่ ไม่ได้มาจากกองกำลังอื่น และ “นี่เป็นพัฒนาการที่ผิดปกติ และจะยิ่งเพิ่มความสงสัยว่า มีบางอย่างที่ไม่ค่อยดีนักเกิดขึ้นในกองกำลังจรวด”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สื่อฮ่องกงอย่างเซาท์ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานอ้างแหล่งข่าวนิรนามหลายคนว่า คณะกรรมการตรวจสอบวินัย (Discipline Inspection Commission) ซึ่งเป็นหน่วยงานต่อต้านคอรัปชั่น และสำนักตำรวจเงินแผ่นดิน สอบสวนพลเอกหลี่กับรองทั้งในอดีตและปัจจุบัน คือ หลิว กวงผิน และจาง เจิ้งหง แต่ไม่มีการประกาศรายละเอียดของการสอบสวน ซึ่งทั้ง 3 คน ต่างไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงเมื่อคืนวันจันทร์ (31 ก.ค.) ก่อนวันก่อตั้งกองทัพ PLA ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ส.ค. (PLA ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ปี 2470

มีรายงานข่าวที่ไม่ยืนยันว่า พลโทอู๋ กั๊วะหัว รองผู้บัญชาการอีกคนหนึ่งของกองกำลังจรวด เสียชีวิตแล้ว โดยรายงานของ

“The Paper”สื่อออนไลน์จีน เมื่อวันพฤหัสบดี อ้างการเปิดเผยของสมาชิกในครอบครัวพลโทอู๋ว่า เขาเสียชีวิตจากอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ก่อนจะลบทิ้งหลังจากนั้น แต่มีข่าวที่สวนกระแสว่า เขาฆ่าตัวตาย ทำให้ชาวเน็ตจีนพากันตั้งข้อสังเกตว่า ต้องมีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในกองกำลังจรวด

กองกำลังจรวด ก่อตั้งเมื่อปี 2558 เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกองทัพของประธานาธิบดีสี ที่เขาให้คำนิยามว่าเป็น “แกนหลักของการป้องปรามทางยุทธศาสตร์ เป็นฐานทางยุทธศาสตร์ที่ค้ำจุนตำแหน่งของประเทศ ในฐานะมหาอำนาจ และเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงของชาติ” 

หลังจากขึ้นสู่อำนาจ เมื่อปี 2555 การปราบปรามการคอรัปชั่นอย่างกว้างขวางของสี  นำไปสู่การเล่นงานเจ้าหน้าที่ในกองทัพมากกว่าร้อยนาย รวมทั้งเหล่านายพลระดับสูง สร้างความสั่นคลอนไปทั้งกองทัพ PLA

ประธานาธิบดีสี เรียกร้องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า กองทัพจำเป็นต้อง “ปฏิบัติตามหลักการของระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด และส่งเสริมความซื่อสัตย์ของวินัยและการต่อต้านการทุจริตต่อไป” และยังเกิดขึ้นหลังจากหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชันกำลังสอบสวนการคอรัปชั่นที่เกี่ยวข้องกับการซื้ออุปกรณ์ ซึ่งย้อนหลังไปเมื่อปี 2560

การแต่งตั้งนายทหารระดับสูงจากภายนอกกองกำลังจรวดเข้ามารับตำแหน่งผู้บํญชาการ เป็นสัญญาณถึงความพยายามของประธานาธิบดีสี ที่จะล้างบางกองกำลังสำคัญนี้ และมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า กองกำลังจรวดถูกควบรวมเข้ากับกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่ครอบคลุมกองบัญชาการในภูมิภาคต่างๆ จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการคนใหม่จะนำพากองกำลังแห่งนี้ได้เพราะมีความคุ้นเคยอยู่แล้ว