เกาหลีใต้แนะสวมหน้ากากอนามัย หลังยอดติดโควิด-19 เพิ่มวันละ 4.5 หมื่นราย
หน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคเกาหลีใต้ แนะประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในที่สาธารณะ พร้อมทั้งยอมรับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ หรือ KDCA แถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 ส.ค.) ยอมรับเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางหน่วยงานต้องพิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบเกี่ยวกับแผนการที่เดิมจะปรับลดระดับโควิด-19 จากโรคระบาดประเภทที่ 2 ลงมาเป็นประเภทที่ 4 ซึ่งเทียบเท่าไข้หวัดตามฤดูกาล ภายในสัปดาห์หน้า ให้ต้องเลื่อนออกไปก่อนหรือไม่
นางจี ยัง-มี หัวหน้าสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ กล่าวว่า จะศึกษาแนวโน้มและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดรอบคอบก่อนจะตัดสินใจในเรื่องนี้ คาดว่าจะประกาศผลการตัดสินใจได้ภายในเดือนสิงหาคม
ภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สถิติทางการชี้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในเกาหลีใต้ได้พุ่งขึ้นสู่อัตราเฉลี่ยวันละ 45,000 คน
หากมีการปรับลดระดับโควิด-19 จากโรคระบาดประเภท 2 สู่ประเภท 4 (class 4) หมายความว่า โควิด-19 จะเทียบเท่าไข้หวัดตามฤดูกาลและโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีการใส่หน้ากากอนามัยป้องกันอีกต่อไป รวมทั้งในสถานที่เสี่ยงโรคระบาด เช่น ในสถานพยายาลที่ให้บริการรักษาผู้ป่วยเทียบเท่าโรงพยาบาลด้วย
ก่อนหน้านี้ เคดีซีเอ มีแผนจะปรับลดระดับโควิดลงมาภายในเดือนสิงหาคมนี้ จากเดิมที่อยู่ในประเภท 2 มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็จะลงมาเป็นประเภทที่ 4 ซึ่งหากมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ก็ไม่จำเป็นต้องรายงานรัฐบาลรับทราบภายใน 24 ชั่วโมงอีกต่อไป แต่หากเป็นประเภทที่2 ต้องรายงานใน 24 ชั่วโมง
เชื้อไวรัสสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในขณะนี้ คือ โอมิครอน XBB ซึ่งจัดว่าแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดอาการรุนแรงมากไปกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม
เคดีซีเอ ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในระยะหลังนี้เกิดจากภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่ฉีดไปแล้วเริ่มลดลงตามกาลเวลา
นอกจากนี้ ยังไม่มีมาตรการบังคับใส่หน้ากากอนามัย ผู้คนจึงไม่ใส่หน้ากากกันมากขึ้น และท่ามกลางอากาศร้อนและอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งกำลังเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันในเกาหลีใต้ ประชาชนจึงแห่เข้าไปแออัดใช้ชีวิตภายในอาคาร เช่น ตามห้างสรรพสินค้ากันมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกปัจจัยให้เกิดการแพร่กระจายไวรัสที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ