‘ฮุน มาเนต’ แพลนใช้ธุรกิจ ฟื้นสัมพันธ์ ‘กัมพูชา - สหรัฐ’ ออกห่างจีน
“ฮุน มาเนต” ผู้สืบทอดอำนาจผู้นำกัมพูชาจาก “ฮุน เซน” บิดา มีความต้องการออกห่างจีน วางแผนพบปะซีอีโอบริษัทสหรัฐ ในนิวยอร์กเดือนหน้า
ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ครองอำนาจ ในฐานะนายกรัฐมนตรีกัมพูชามายาวนาน ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า จะส่งต่ออำนาจนี้ให้กับลูกชาย ฮุน มาเนต วัย 45 ปีที่จบการศึกษาจากสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือน ก.ค. และกวาดที่นั่ง ส.ส.ไปมากที่สุด พูดได้ว่า ไม่มีพรรคการเมืองในกัมพูชาใดเทียบทานได้
"เทด โอเซียส" ประธานสภาธุรกิจสหรัฐ - อาเซียน กล่าวกับรอยเตอร์ในวันศุกร์ (4 ส.ค.)ว่า “เราหวังจะเห็นฮุน เมเนต เริ่มบทบาทผู้นำใหม่”
โอเซียสมีบทบาทสำคัญ ในการกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศต่างๆ ในอาเซียน ซึ่งเปรียบเหมือนผู้ทำหน้าที่ล็อบบี้ทางธุรกิจสหรัฐ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“แม้ไม่ใช่บทบาทใหม่ทั้งหมด แต่เขา (ฮุน มาเนต) ไม่ใช่พ่อของเขา เพราะเขาแตกต่างออกไป จึงมีโอกาสได้เห็นบางอย่างที่นี่” โอเซียสกล่าว
ประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน เคยเป็นอดีตนักการทูต ในตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำเวียดนาม ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัมพูชา
โดยโอเซียสเปิดเผยว่า มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พนมเปญถึงการจัดเตรียมงานเลี้ยงรับรองที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จัดขึ้นระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เดือน ก.ย. ที่นครนิวยอร์ก
“เราจะนำซีอีโอที่สนใจลงทุนในกัมพูชามาพบปะ (ฮุน มาเนต) เผื่อต้องการได้รับมุมมองของคนรุ่นใหม่ และเรามั่นใจอย่างยิ่งว่า ผู้นำกัมพูชาต้องการสิ่งนี้” โอเซียสกล่าว
ผลการเลือกตั้งกัมพูชาที่เหมือนมีแค่พรรคเดียวลงแข่งขันเลือกตั้ง ได้จี้จุดให้วอชิงตันประณามเคลื่อนไหวของกลุ่มเผด็จการและต่อต้านประชาธิปไตยของฮุน เซนที่มานานหลายปี โดยชี้ว่า “การเลือกตั้งไม่เสรีและเป็นธรรม”
ฮุน มาเนต จบการศึกษาในประเทศทางตะวันตก รวมทั้งสถาบันการทหารเวสต์พอยต์ในสหรัฐ โอเซียสบอกว่า ฮุน มาเนต ไม่ต้องการเป็นแหล่งผลประโยชน์และกันชน ในฐานะที่กัมพูชามีความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม แนวทางสหรัฐที่มีต่อกัมพูชาเป็นลักษณะการลงโทษ ดังนั้นวอชิงตันอาจต้องมองหาโอกาสเจรจากัมพูชา คุยเรื่องความสัมพันธ์กันใหม่