หยุดตามหา ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา คนต่อไป
บ่อยครั้ง นักลงทุนหน้าใหม่ไฟแรงที่ได้รับการวางตัวให้เป็น “วอร์เรน บัฟเฟตต์” คนต่อไป มักจะก่อเรื่องน่าผิดหวังตามมา เช่น “แซม แบงก์แมนฟราย” ซึ่งขณะนี้โดนตั้งข้อหาคดีอาญาเสียแล้ว
นอกเหนือจากแซม แบงก์แมนฟราย ผู้ก่อตั้ง FTX แพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซีอันอื้อฉาว ยังมีเอ็ดเวิร์ด แลมเพิร์ท อดีตซีอีโอเซียร์ และชมัธ พลิฮาปิติยา นายทุนระดับมหาเศรษฐีจากโซเชียลแคปิตอล ซึ่งถูกขนานนามเป็นวอร์เรน บัฟเฟตต์คนต่อไป แต่ทั้งสองก็สร้างผลงานเป็นที่รู้จักในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของพวกเขาเท่านั้น แต่ผลงานภาพรวมยังไม่ใกล้เคียงบัฟเฟตต์ เจ้าของตำนานเทพพยากรณแห่งโอมาฮา วัย 92 ปี
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ถึงตอนนี้ บรรดานักลงทุนหยุดมองหา “วอร์เรน บัฟเฟต์” คนต่อไปแล้ว เพราะยังไม่มีใครเทียบรัศมีได้
นับตั้งแต่บัฟเฟตต์ก่อตั้งเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ในปี 1965 ได้พิสูจน์ว่า เขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร
หน่ำซ้ำการเลียนแบบบัฟเฟตต์ยังทำได้ยาก โดยเฉพาะจะบริหารธุรกิจอย่างไรที่ทำรายได้ให้เหมือนบัฟเฟตต์ ซึ่งรายงานของ S&P เผยรายงานระบุบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ มูลค่า 8 แสนล้านดอลลาร์ของบัฟเฟตต์ มีผลตอบแทนมากถึงสองเท่าในปีหนึ่งๆ
*หนึ่งเดียว ไม่มีใครเทียบ
ทุกวันนี้ เบิร์กเชียร์เป็นเจ้าของธรกิจหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อตั้งแต่บริษัทประกัน ผลิตภัณฑ์อาหาร ไปจนถึงบริษัทรถไฟฟ้าของสหรัฐและอื่นๆอีกมาก
บริษัทเบิร์กเชียร์มีเงินสดประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ นั่นทำให้บัฟเฟตต์ได้รับรางวัลศิษย์ดีเด่นของสถาบันเบนตามิน เกรแฮม บิดาแห่งการลงทุนสายเน้นคุณค่าของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
*ทุบสถิติ ทุกการลงทุน
ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับฐานครั้งใหญ่เมื่อปี 1960 บัฟเฟต์ใช้หุ้นส่วนลงทุนของเขาเพื่อซื้อบริษัทสิ่งทอในนิวอิงแลนด์ที่ประสบปัญหา ครั้งนั้นสร้างความสำเร็จมากกว่าที่เป็นมา และล่าสุดในสัปดาห์นี้ หุ้นพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเบิร์กเชียร์ทำกำไรจากการดำเนินธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สิ้นสุดเมื่อเดือน มิ.ย.
มีรายงานระบุว่า หุ้นเบิร์กเชียร์สร้างกำไร 19.8%ต่อปี ตั้งแต่ปี 1965 - 2022 ซึ่งสามารถเพิ่มผลตอบแทนทางรายได้ 9.9% หรือนับตั้งแต่ที่บัฟเฟตต์เข้ามา ทำให้หุ้นเพิ่มขึ้น 3,787,464%