‘นาฬิกาหรู’ หลายแบรนด์ถูกขโมยเพิ่มถึง 60% ในยุโรป
หนึ่งในทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงแม้จะอยู่ในตลาดมือสองก็คือ “นาฬิกาหรู” ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของการโจรกรรม โดย “Rolex” ถือว่าถูกขโมยมากที่สุด
Key Points:
- ล่าสุดนาฬิกาหรู โดยเฉพาะ “Rolex” กลายเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูงที่มีการโจรกรรมสูงขึ้นในยุโรป รองลงมาคือ Audemars Piguet และ Patek Philippe
- สาเหตุที่ทำให้นาฬิกาหรูกลายเป็นสินค้าที่ถูกโจรกรรมมากขึ้น เนื่องจากทำราคาได้ดีเมื่อนำไปขายในตลาดมือสอง ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคต้องการอย่างมาก
- ไม่ใช่เพียงแค่มูลค่าเท่านั้นที่ทำให้ Rolex เป็นนาฬิกาหรูที่ได้รับความนิยม แต่เรื่องราวของแบรนด์ก็เป็นปัจจัยสำคัญ
“นาฬิกาหรู” ถือเป็นหนึ่งในทรัพย์สินมูลค่าสูง ที่แม้แต่ในตลาดมือสองก็ยังมีราคาแพงไม่แพ้สินค้ามือหนึ่ง มากไปกว่านั้นนาฬิกามือสองบางรุ่นพบว่ามีราคาสูงกว่ามือหนึ่งเสียอีก ทำให้ผู้ครอบครองนาฬิกาหรูหลากหลายแบรนด์ตกเป็นเป้าการถูกโจรกรรมเพื่อนำไปขายทอดตลาด โดยเฉพาะแบรนด์ “Rolex” ที่ถูกขโมยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในแถบยุโรป
สำหรับนาฬิกาหรูที่ได้รับการรายงานจาก Bloomberg ว่า “ถูกขโมย” มากที่สุดคือนาฬิกาที่มีมูลค่าสูงกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 80,000 เรือน โดยเป็นข้อมูลนาฬิกาที่ลงทะเบียนว่าถูกขโมยหรือสูญหายกับ The Watch Register บริษัทที่ช่วยให้เจ้าของ ร้านประมูล และตัวแทนจำหน่าย ระบุนาฬิกาที่ถูกขโมยโดยมีค่าธรรมเนียม และ “Rolex” เป็นแบรนด์ที่มีการลงทะเบียนตามหามากที่สุด รวมถึงมีการขโมยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 60 หรือประมาณ 6,815 เรือน
สาเหตุที่ Rolex ถูกขโมยมากที่สุดเพราะเป็นแบรนด์ที่ขายต่อได้ราคาดีและมีความต้องการมากที่สุดในตลาดมือสอง ตามมาด้วยแบรนด์ Audemars Piguet และ Patek Philippe ที่มีการโจรกรรมสูงขึ้นตามมาในปัจจุบัน
ด้านตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนเริ่มดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากจำนวนการโจรกรรมพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 60 ระหว่างเดือน พ.ค. ถึง มิ.ย. ส่วนในกรุงปารีสมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 30 นาย เพื่อแก้ไขปัญหาโจรกรรมนาฬิกาหรู
“Rolex” นั้นไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนว่าโดนขโมยมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่จากฐานข้อมูลของ The Watch Register ที่รวบรวมมานานกว่า 30 ปี พบว่าแบรนด์ดังกล่าวมีการขึ้นทะเบียนสูญหายประมาณร้อยละ 44 รองลงมาคือ Omega และ Breitling
ด้าน แคเทีย ฮิลล์ส (Katya Hills) กรรมการผู้จัดการของ The Watch Register กล่าวว่า “คุณค่าและเรื่องราวที่หรูหราของนาฬิการะดับไฮเอนด์เหล่านี้ยังคงดึงดูดความสนใจของเครือข่ายอาชญากรในระดับสากล ทำให้นาฬิกาหรูเหล่านี้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของการโจรกรรม”
ล่าสุดบางแบรนด์ได้มีการดำเนินการขั้นรุนแรงเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา Audemars Piguet ระบุว่าจะยื่นข้อเสนอเปลี่ยนนาฬิกาของลูกค้าที่ถูกขโมยไป แต่ยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวทางแก้ปัญหาที่อาจจะต้องใช้เวลาดำเนินการอีกประมาณ 2 ปี
สำหรับเรื่องราวที่น่าสนใจของ Rolex ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นาฬิกาได้รับความนิยม(รวมถึงการขโมย)นั้น เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1905 จากการก่อตั้งของ Hans Wilsdorf ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเขามองว่านาฬิกาข้อมือนั้นมีแค่ความแม่นยำและความหรูหรายังไม่พอ แต่จำเป็นต้องมีความน่าเชื่อถือในตัวแบรนด์และนวัตกรรมที่ทันสมัยอีกด้วย เขาจึงติดตั้งกลไกขนาดเล็กแต่มีความแม่นยำที่ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไว้ในนาฬิกาของเขาด้วย
หลังจากนั้นในปี 1914 หอดูดาว Kew ในริชมอนด์กรุงลอนดอน ได้มอบใบรับรองความเที่ยงตรงระดับ “A” ให้กับนาฬิกาข้อมือ Rolex ทำให้ “ความแม่นยำ” กลายเป็นความโดดเด่นและเป็นความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Rolex ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จากปัญหาการโจรกรรม “นาฬิกาหรู” หลากหลายแบรนด์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความท้าทายของเจ้าหน้าที่และแบรนด์ผู้ผลิตว่าหลังจากนี้จะมีการดำเนินการที่เข้มงวดและรัดกุมเพื่อป้องกันการสูญหายและตามล่าตัวผู้กระทำผิดได้อย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้กระทบกับกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ โดยเฉพาะ “Rolex” ที่นอกจากจะมีมูลค่าสูงแล้วยังมีความต้องการสูงมาทุกยุคทุกสมัยอีกด้วย
อ้างอิงข้อมูล : Bloomberg, และ Astronomical Heritage (UK)
