หุ้น 'เอเวอร์แกรนด์' ดิ่งกว่า 80% เช้านี้ หลังขาดทุนหนักครึ่งปีแรก
ราคาหุ้นไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ร่วงลง 86.7% ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาดหุ้นฮ่องกงในวันนี้ หลังจากหุ้นของบริษัทถูกระงับการซื้อขายเป็นเวลานานถึง 17 เดือน
ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง อนุญาตให้ เอเวอร์แกรนด์ นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงอีกครั้งในวันนี้ หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าทางบริษัทได้ปรับระบบการควบคุมดูแลภายในองค์กรให้ดีขึ้นและสอดคล้องกับกฎระเบียบการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นเอเวอร์แกรนด์ ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงเช้าวันนี้ โดยราคาหุ้นดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดที่ 0.22 ดอลลาร์ฮ่องกง ส่งผลมูลค่าตลาดของเอเวอร์แกรนด์ทรุดฮวบลงสู่ระดับ 3.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (408.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัท หลังจากเอเวอร์แกรนด์ระบุในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงว่า บริษัทมียอดขาดทุนสูงถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เอเวอร์แกรนด์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กของสหรัฐในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของ กฎหมายล้มละลาย โดยเอเวอร์แกรนด์ประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้วิกฤตหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์จีนลุกลามเป็นวงกว้าง
สถานะทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์สั่นคลอน หลังจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ซึ่งการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์อาจจะส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่น ๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสร้างความเสี่ยงต่อระบบธนาคารของจีน