ปลดล็อก ‘วีซ่า’ ช้า รับดีมานด์ล้น เดือน ต.ค.
ปลดล็อก ‘วีซ่า’ ช้า รับดีมานด์ล้น เดือน ต.ค. ขณะที่ไทยเป็นประเทศในอันดับต้นๆที่เป็นจุดหมายปลายทางของชาวจีน และปี 2562 เป็นปีที่มีตัวเลขนักท่องเที่ยวมากที่สุด ก่อนหน้าการแพร่ระบาดใหญ่
นับตั้งแต่ทางการจีนเปิดประเทศและอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศ หลังการระบาดใหญ่ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปยังประเทศและเมืองต่างๆ นอกจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว 43.7 ล้านคน เน้นไปที่การเดินทางแบบระยะสั้น หรือเป็นการท่องเที่ยวประเทศ/ดินแดนในแถบเอเชีย 93% โดยส่วนใหญ่ชาวจีนเดินทางไปฮ่องกงและไต้หวันเป็นหลัก
รายงานของ"สำนักงานการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมจีน"ชี้ให้เห็นว่า ในจำนวนนี้ มีชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย อยู่ที่ประมาณ 3% แม้มีประเด็นปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการยื่นขอวีซ่าเข้าไทยอยู่บ้าง ถ้าหากทางการไทยสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นเป้าหมายของเราได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
สิ่งที่จะได้รับอย่างแรก เมื่อมีระบบเชื่อมโยง 3 หน่วยงานระหว่างกรมการกงสุล กรมการท่องเที่ยว และสำนักงานท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นั่นคือ การย่นระยะเวลาการพิจารณาอนุมัติวีซ่า และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เพราะระบบจะช่วยตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะเดินทางมายังประเทศไทยจริงๆ รวมไปถึงฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ฐาปนีย์ อ้างตัวเลขจากสำนักงานสถิติจีน เผยข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทยเมื่อปี 2562 ครองสัดส่วนอยู่ที่ 6% ของนักท่องเที่ยงจีนไปยังประเทศ/ดินแดนทั่วโลก ซึ่งถือว่า ไทยเป็นประเทศในอันดับต้นๆที่เป็นจุดหมายปลายทางของชาวจีน และยังเป็นปีที่มีตัวเลขนักท่องเที่ยวมากที่สุด ก่อนหน้าการแพร่ระบาดใหญ่
“นี่เป็นโจทย์สำคัญว่า เราจะทำอย่างไรให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยหลังจากนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก เพราะเราเห็นดีมานด์ นักท่องเที่ยวจีนที่ต้องการมาไทย แต่อาจติดขัดบางประการ จึงเป็นที่มาของการปลดล็อกระบบการทำงานให้เชื่อมโยงกัน เพื่อให้การพิจารณาอนุมัติวีซ่าฉับไว อย่างน้อยๆ ในระยะเริ่มต้นใช้ระบบ คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 5 -7 แสนคน” ฐาปนีย์ประเมินนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
สำนักงานท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้สำรวจค่าใช้จ่ายกิน ช้อป ใช้ของชาวจีนที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อทริปในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละคนมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาท ต่อคน และจะเฉลี่ยอยู่ในประเทศประมาณ 5 – 7 วัน กรณีนี้ยังรวมถึงกรุ๊ปทัวร์
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ชาวจีนนิยมท่องเที่ยววัฒนธรรม,ธรรมชาติ ดูแลสุขภาพ ชอปปิง เครื่องรางของขลัง สายมู กินอาหารอร่อย และผลไม้ไทยประจำฤดูกาล ล้วนบอกมาไทยได้เที่ยวครบจบในที่เดียว
ฐาปนีย์บอกด้วยว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ (Free Individual traveler : FIT) ของจีน หรือนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตนเอง ชอบเที่ยวสะพายเป้แบบแบ็คแพ็คมาไทย ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมตอนนี้ยังมีจำนวนมากกว่าการเดินทางมากับกลุ่มทัวร์ ซึ่งกลุ่ม FIT ก็ต้องยื่นขอวีซ่าผ่านระบบเหมือนกัน ดังนั้นการทำงานเชิงรุกทั้ง 3 หน่วยงาน จะตอบโจทย์แบบเร่งด่วนและครอบคลุมทุกกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะวันหยุดยาวของชาวจีน ที่จะมีขึ้นในต้นเดือน ต.ค.ที่มาถึงนี้