คาดเศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวแต่แกร่งเกินเศรษฐกิจโลก

คาดเศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวแต่แกร่งเกินเศรษฐกิจโลก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)คาดปีนี้เศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัว แต่ยังดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก นักลงทุนใช้เป็นทางเลือกย้ายฐานจากจีน แต่ยังห่วงเรื่องโครงสร้างพื้นฐานล้าหลังกว่า

เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงาน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตลดลงในปีนี้มาอยู่ที่ 5.8% จาก 8% ในปี 2565 เมื่อการส่งออกต้องเผชิญกับความต้องการในตลาดโลกลดลง

อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าดีกว่าเศรษฐกิจโลกที่ไอเอ็มเอฟคาดว่าจะขยายตัว 3% และดีกว่าเขตเศรษฐกิจสำคัญอย่างสหรัฐ จีน และยูโรโซนอย่างเห็นได้ชัด

“เมื่อส่วนอื่นๆ ของเอเชียกำลังตกต่ำ เวียดนามจะยังคงเป็นเขตเศรษฐกิจหนึ่งที่เติบโตรวดเร็วที่สุด” รายงานล่าสุดจากบริษัทเนติซิสระบุ นับว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับบริษัทที่ต้องการหาความหวังท่ามกลางบรรยากาศเศรษฐกิจโลกซบเซา

ในเดือน มี.ค. สภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซีียนนำทัพทำภารกิจครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีในเวียดนาม นำตัวแทนบริษัทอเมริกัน 52 แห่ง รวมถึงบิ๊กเนมอย่างเน็ตฟลิกซ์และโบอิงมาเยือน

แน่นอนว่าบริษัทหลายแห่งยังคงสงวนท่าทีเนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ กฎระเบียบด้านเทคโนโลยีของเวียดนาม ที่นักลงทุนอเมริกันเกรงว่าจะรวมถึงการจำกัด “การถ่ายโอนข้อมูลข้ามประเทศ” หรือกฎระเบียบมากมายกำหนดให้ต้องเก็บข้อมูลไว้ในท้องถิ่น

บริษัทบางแห่งกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเวียดนามล้าหลังเมื่อเทียบกับจีน ซึี่งเป็นมหาอำนาจทางการค้ามานาน

เท็ด โอเซียส ประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน ยกตัวอย่าง “ท่าเรือยังมีศักยภาพไม่พอสำหรับส่งออกสินค้าบางชนิดให้เร็วพอตามที่บริษัทต้องการ”

ในด้านการเมือง เวียดนามเหมือนจีนหลายอย่าง เป็นรัฐที่ปกครองโดยพรรคการเมืองเดียวและไม่อดทนกับคนเห็นต่าง แต่โดยรวมภาคธุรกิจต้องการทำธุรกิจให้ง่ายเพื่อแสวงหากำไรให้คุ้มค่ากับการลงทุน

อลิเซีย การ์เซีย เฮอร์เรโร หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเนติซิส กล่าวว่า เวียดนามเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น เป็นตัวเลือกที่ราคาถูกหากต้องย้ายจากจีน สำหรับหลายๆ ภาคส่วนการย้ายฐานไม่ใช่เรื่องยาก เพราะซัพพลายเออร์จีนหลายรายก็ย้ายมาแล้วเลี่ยงภาษีสหรัฐ
 

“มันคล้ายกันมากเพราะคุณมีผู้ให้บริการรายเดียวกันกับในประเทศจีน” นักวิเคราะห์อธิบาย

รัฐบาลไบเดนก็อยากจะได้ตัวเลือกเช่นเดียวกัน

“ค่อนข้างชัดเจนว่า พวกเขาพยายามสร้างชัยชนะด้านนโยบายต่างประเทศชุดหนึ่งก่อนการเลือกตั้งปี 2567 ด้วยการลงนามเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้านกับเวียดนาม” ไมเคิล เอเวอรี นักวิเคราะห์จากราโบแบงก์ให้ความเห็น