'WSJ'เผยแผนลับอิหร่านช่วยฮามาสถล่มอิสราเอล
ปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลที่เรียกได้ว่า "สมบูรณ์แบบ" เพราะมีทั้งการเข้าแทรกซึมไปอยู่ข้างใน การโจมตีโอบล้อมจากทุกทิศทาง สนับสนุนด้วยการยิงจรวดแบบซัลโวถึง 5,000 ลูก ถูกเปิดเผยแล้วว่ามี "อิหร่าน" เป็นผู้วางแผนให้ และเพิ่งไฟเขียวให้ลงมือเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม
วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานว่ากองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (The Islamic Revolutionary Guard Corps) หรือ IRGC ของอิหร่าน มีบทบาทสำคัญในการวางแผนโจมตีอิสราเอลให้แก่ฮามาส เมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) โดยไฟเขียวให้ลงมือในระหว่างการประชุมที่กรุงเบรุตของเลบานอน เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ต.ค.
สมาชิกอาวุโสของฮามาสและฮิซบุลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มที่อิหร่านสนับสนุน เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ของ IRGC ได้ทำงานร่วมกับฮามาสมาตั้งแต่เดือนส.ค. ในการวางแผนการโจมตีทางอากาศ ทางบกและทางทะเล ซึ่งถือเป็นการละเมิดพรมแดนอิสราเอลครั้งร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่เกิดสงคราม "ยมคิปปูร์" (Yom Kippur) เมื่อปี 2516
รายละเอียดของปฏิบัติการได้รับการปรับปรุงในระหว่างการประชุมหลายครั้ง ในกรุงเบรุต โดยมีเจ้าหน้าที่ IRGC และตัวแทนของกลุ่มติดอาวุธ 4 กลุ่ม ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเข้าร่วม รวมถึงกลุ่มฮามาสที่กุมอำนาจในฉนวนกาซา และฮิซบอลเลาะห์ที่เป็นทั้งกลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์ และ "มุ้งการเมือง" (political faction) ในเลบานอน
การเปิดเผยเรื่องนี้ถือเป็นการฉีกหน้า แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์ (8 ตุลาคม 2566) ว่า "เรายังไม่เห็นหลักฐานว่าอิหร่าน บงการหรืออยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้"
แต่เจ้าหน้าที่ของยุโรปและที่ปรึกษารัฐบาลซีเรีย ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ว่า อิหร่านเกี่ยวข้องกับการโจมตีอิสราเอล
ตอนแรก มาฮุด มีร์ดาวี เจ้าหน้าที่อาวุโสของฮามาส อ้างว่าทางกลุ่มวางแผนโจมตีด้วยตัวเอง "นี่คือการตัดสินใจของฮามาสและปาเลสไตน์"
ส่วนโฆษกของเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ อ้างว่า อิหร่านสนับสนุนการดำเนินการฮามาสแต่ไม่ได้บงการ
"การตัดสินใจเป็นของปาเลสไตน์ ที่มีความเป็นอิสระอย่างขีดสุด และสอดคล้องกับผลประโยชน์อันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์อย่างแน่วแน่ เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตอบโต้ของปาเลสไตน์ เพราะปาเลสไตน์เป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง"
บทบาทของอิหร่านในเรื่องนี้ จะทำให้ความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนานระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ที่ดำเนินมานยาวนานพ้นออกมาจากเงามืด และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างในตะวันออกกลาง เพราะฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลได้ประกาศกร้าวว่า "จะโจมตี"
บทบาทโดยตรงของอิหร่าน จะช่วยขจัดความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนานระหว่างเตหะรานกับอิสราเอล ให้พ้นจากเงามืด และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างในตะวันออกกลาง เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอาวุโสของอิสราเอลให้คำมั่นว่าจะโจมตีอิหร่าน ถ้าพบว่ามีส่วนรับผิดชอบต่อการสังหารชาวอิสราเอล
แผนที่ปรับใหม่ของ IRGC คือ การสร้างภัยคุกคามจากหลายแนวร่วม เพื่อให้สามารถบีบอิสราเอลจากทุกด้าน โดยฮิซบอลเลาะห์ และแนวร่วมประชาชนเพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์ (Popular Front for the Liberation of Palestine) หรือ PFLP บีบจากทางเหนือ ส่วนกลุ่มญีฮัด อิสลามิค ปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) กับฮามาส (Hamas) ปฏิบัติการอยู่ในกาซาและเวสต์ แบงก์
การโจมตีเมื่อวันเสาร์ได้ทำลาย "รัศมีแห่งความอยู่ยงคงกระพัน" ของอิสราเอล พร้อมกับคำถามที่ตามว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงที่ทรนงของพวกเขา ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร
อาจสายไปเพราะมีคนเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 700 คน ที่อิสราเอลประนามอิหร่านว่า อยู่เบื้องหลังการโจมตี โดยจิลัด เออร์ดัน เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ บอกว่า "ต่อให้เป็นทางอ้อม เราก็รู้ว่ามีการประชุมกันในซีเรียและเลบานอน ระหว่างอิหร่านกับผู้นำกลุ่มติดอาวุธที่รายล้อมอยู่รอบอิสราเอล ที่เห็นได้ชัดว่า มีการพยายามประสานงานกันระหว่างพวกหุ่นเชิดของอิหร่านในภูมิภาคของเรา พวกเขาพยายามประสานความร่วมมือกับอิหร่านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"