สหรัฐกดดันอิสราเอลชะลอแผนบุกกาซา หวังเร่งช่วยตัวประกัน
แหล่งข่าววงในเผย รัฐบาลสหรัฐและยุโรปกำลังกดดันอิสราเอลให้ชะลอการบุกกาซาทางบกออกไปก่อน เพื่อซื้อเวลาเจรจาลับผ่านทางกาตาร์ให้ฮามาสปล่อยตัวประกัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าว ระบุ การเจาจากับฮามาสเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอาจล้มเหลว แต่ก็มีสัญญาณว่าอย่างน้อยฮามาสอาจตกลงปล่อยตัวประกันพลเรือนจำนวนหนึ่งที่ถูกจับตัวไปในการโจมตีวันที่ 7 ต.ค. โดยไม่เรียกร้องให้อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษเป็นการตอบแทน
ด้านอิสราเอลที่ตั้งใจปฏิบัติการทหารครั้งใหญ่เพื่อขจัดฮามาสให้สิ้นซาก ตอนแรกก็อิดออดแต่สุดท้ายยินยอมตามแรงกดดันของสหรัฐเห็นได้จากอิสราเอลเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติการช่วงไม่กี่วันมานี้ ชี้ว่าอิสราเอลใช้วิธีการที่จำกัดวงมากขึ้นซึ่งอาจลดการสูญเสียชีวิตของพลเรือนได้
ทั้งนี้ ฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. คร่าชีวิตประชาชนกว่า 1,400 คน ถูกจับเป็นตัวประกันในกาซาอีกกว่า 200 คน ขณะที่อิสราเอลโจมตีกาซาทางอากาศอย่างหนัก ตัดการส่งน้ำ ส่งอาหาร และพลังงาน กลายเป็นวิกฤติมนุษยธรรม
กองทัพอิสราเอล แถลงเมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) ในกลุ่มตัวประกันเป็นเด็กและวัยรุ่นกว่า 20 คน สูงวัยเกิน 60 ปี ราว 10-20 คน ตัวประกันเป็นพลเมืองหลายสิบประเทศ อาทิ สหรัฐ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และอื่นๆ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ฝ่ายติดอาวุธของฮามาสเผยว่า ตัวประกันที่ไม่ใช่คนอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัว “เมื่อสภาพแวดล้อมภาคพื้นดินเปิดทาง”
นับตั้งแต่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. สหรัฐและพันธมิตรพากันส่งผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปยังนครเทลอาวีฟ เพื่อแสดงการสนับสนุนอิสราเอลพร้อมกับเตือนรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ถึงความจำเป็นที่ต้องอนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซา และป้องกันความสูญเสียของพลเรือนในการบุก
สหรัฐและรัฐบาลนานาประเทศเกรงว่า การโจมตีรุนแรงอาจเติมเชื้อความตึงเครียดในภูมิภาค แล้วกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังในเลบานอนและกลุ่มอื่นๆ จะร่วมผสมโรงกลายเป็นสงครามใหญ่ที่สหรัฐจำเป็นต้องใช้กำลังทหารแทรกแซงเพื่อสนับสนุนอิสราเอล
ด้านรัฐบาลเนทันยาฮูกล่าวว่า จะพยายามให้มีการปล่อยตัวประกันเช่นกัน แต่ก็ต้องขจัดฮามาสออกจากกาซาด้วย ที่นี่อยู่ภายใต้การปกครองของกาซามาเกือบ 20 ปี ฮามาสสร้างเครือข่ายอุโมงค์และที่ตั้งกองกำลังไว้มากมาย