ทูตนิกรเดชชี้ ยกระดับสัมพันธ์เวียดนาม 'หนุนเศรษฐกิจ-ซอฟต์พาวเวอร์ไทย'
นิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย เผยว่า การยกระดับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามสู่ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน” ช่วยหนุนการค้า พัฒนาเมืองรอง และส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยในเวียดนาม
นิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเวียดนาม เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ว่า การยกระดับความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามสู่ Comprehensive strategic partnership หรือ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน” มีความหมายต่อไทยมาก ส่งผลให้มีการยกระดับสัมพันธ์หลายด้าน
ประการแรก คือ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เตรียมเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ และทั้งสองฝ่ายกำลังพิจารณาเร่งจัดประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองประเทศได้พิจารณาประเด็นที่คั่งค้าง และผลักดันประเด็นที่ต้องการขับเคลื่อนในอนาคต
ประการที่สอง การยกระดับสัมพันธ์ช่วยหนุนไทยขึ้นเป็นคู่ค้าระดับท็อป 5 ของเวียดนามได้ในไม่ช้า ขณะเดียวกันก็สามารถดึงนักลงทุนเวียดนามได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ประการสุดท้าย หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านสนับสนุนความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ซึ่งตอนนี้ไทย-เวียดนามมีการจับคู่บ้านพี่เมืองน้อง 15 คู่ และจะมีการผลักดันกิจกรรมระหว่างกันมากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการศึกษา เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น จ.ภูเก็ตกับเมืองฝูก๊วก ซึ่งมีความคล้ายกันเพราะเป็นเกาะที่มีความสวยงาม ฝูก๊วกจึงอยากเรียนรู้ด้านการบริการจากไทย ขณะที่เชียงใหม่และกว่างนิง อาจร่วมกันพัฒนาศักยภาพท่องเที่ยว ร่วมถึงพัฒนาเส้นทางบกจากไทยไปเวียดนามเพื่อหนุนการค้าชายแดน
ด้านการค้า เอกอัครราชทูตเผยว่า ไทยได้ดุลการค้าจากเวียดนามมากพอสมควร และสิ่งที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายมากขึ้นคือ การเพิ่มห่วงโซ่มูลค่าการผลิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าทั้งสองฝ่าย ถ้าเวียดนามผลิตได้มาก ไทยจะได้ส่งชิ้นส่วนสินค้าต่าง ๆ ออกได้มาก เนื่องจากสินค้าส่งออกของไทยไปเวียดนามส่วนใหญ่เป็นสินค้านำมาประกอบเพื่อส่งออก
การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์ของบริษัทวินฟาสต์ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีของไทยเช่นกัน และวินฟาสต์สนใจเปิดศูนย์จำหน่ายรถยนต์ในไทยภายในปีนี้ หรืออย่างช้าภายในปีหน้า ซึ่งอาจสร้างอิมแพคต่อตลาดอีวีของไทยเป็นอย่างมาก
นิกรเดช เผยด้วยว่า ซอฟต์พาวเวอร์ไทยก็เป็นสิ่งที่คนเวียดนามชื่นชอบมาก ปัจจุบันคนเวียดนามมีความตื่นตัวเรื่องภาพยนตร์ ละคร และเพลงของไทย เช่น ละครบุพเพสันนิวาส ทำให้คนเวียดนามสนใจการแต่งกายไทย สนใจท่องเที่ยวตามสถานที่ในละคร และชื่นชอบอาหารไทย
ทูตไทยในเวียดนาม กล่าวว่า
"ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมีศักยภาพมากกว่าที่เราคิด และคนเวียดนามพร้อมเปิดรับซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมากขึ้นเรื่อยๆ"