เทศกาลชอปปิงวันคนโสด‘ส่อกร่อย’ ผู้บริโภคจีนระวังค่าใช้จ่าย

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงาน เทศกาลชอปปิงวันคนโสดถือกำเนิดโดยอาลีบาบายักษ์อีคอมเมิร์ซจีน จากวันดียวขยายเป็นหลายสัปดาห์ที่แพลตฟอร์มออนไลน์จีนต่างกระหน่ำลดราคาสินค้า แต่ปีนี้ความตื่นเต้นลดลง 

บริษัทเบนแอนด์คัมพะนีสำรวจผู้บริโภคในจีนกว่า 3,000 คน พบว่าผู้บริโภคเกือบครึ่งเผยว่า พวกเขาหันมาซื้อของถูกหรือสินค้าเฮาส์แบรนด์มากกว่าแบรนด์ใหญ่เพราะราคาถูกกว่า  ผู้บริโภคกว่าสามในสี่หรือ 77% ไม่มีแผนใช้จ่ายเพิ่มเติม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก76% ที่สำรวจพบเมื่อปีก่อน และเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 49% เมื่อปี 2564

ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจชะลอตัวและความกังวลต่อรายได้ในอนาคตทำให้ผู้บริโภคต้องคิดหนักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

นายเจมส์ หยาง หุ้นส่วนบริษัทเผย “เมื่อพิจารณาเศรษฐกิจมหภาค ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดเล็กน้อย ผู้บริโภคตระหนักมากขึ้นว่านำเงินไปใช้จ่ายที่ไหนอย่างไร ปีนี้เราคาดว่าน่าจะมีการสต็อกสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มมากขึ้น”

ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่ทั้งอาลีบาบาและเจดีดอทคอม ยักษ์ค้าปลีกออนไลน์ ไม่เปิดเผยมูลค่าการซื้อขายรวมวันคนโสดซึ่งเป็นมาตรวัดสำคัญ

เบนประเมินรวมแพลตฟอร์มอื่นด้วย พบว่า มูลค่าการซื้อขายรวมวันคนโสดปี 2565 เพิ่มขึ้น 3% มาอยู่ที่ 9.34 แสนล้านหยวน (1.285 แสนล้านดอลลาร์) หากรวมยอดขายจากการสตรีมมิงและอีคอมเมิร์ซเน้นคอนเทนท์อีก 1.81 แสนล้านหยวน มูลค่าการซื้อขายโดยรวมปี 2565 ทะลุ 1 ล้านล้านหยวน

ในบริบทนี้ตัวเลขตลาดจีนยังคงมากกว่า 3.53 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ผู้บริโภคสหรัฐชอปรวมกันสามเทศกาลท้องถิ่น ทั้งวันขอบคุณพระเจ้า, แบล็กฟรายเดย์ และไซเบอร์มันเดย์

ที่ผ่านมาการสตรีมมิง โพสต์วีดิโอหรือรูปภาพขนโซเชียลมีเดียเป็นวิธีขายสินค้าที่ไปได้ดีในจีน อาลีบาบาและเจดีดอทคอมต่างมีฟังก์ชันสตรีมมิง โต่วอินหรือติ๊กต็อกเวอร์ชันจีนกลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญให้ผู้คนและบริษัทค้าปลีกไลฟ์ขายของได้

นายหยางจากเบนคาดว่า สัดส่วนการสตรีมมิงจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ จะใช้จ่ายแตกต่างกันด้วย ผู้มีรายได้สูงโดยทั่วไปยังคงใช้จ่ายต่อไป ขณะที่คนงานคอปกน้ำเงินจะลดค่าใช้จ่ายลง ส่วนชนชั้นกลางระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น