สหรัฐอเมริกากำลังฆ่าตัวเอง? (จบ) | ไสว บุญมา
การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกาตกอยู่ในภาวะตายผ่อนส่งมานาน เนื่องจากผู้สมัครเป็นตัวแทนของประชาชนที่ได้รับการสนับสนุนด้วยเงินทุนจำนวนมากจากเศรษฐี มีโอกาสได้รับเลือกสูงกว่าคู่แข่งที่ไม่มีนายทุนสนับสนุนอย่างแข็งขัน
เศรษฐีมีโอกาสเข้าถึงนักการเมืองในรัฐสภามากกว่าคนธรรมดาทั่วไป เมื่อเกิดอะไรขึ้นที่อาจมีความจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนงบประมาณรายจ่าย หรือกฎหมายของบ้านเมืองแบบเร่งด่วน เศรษฐีมีโอกาสโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภาให้เห็นมุมมองของพวกเขามากกว่าของคนอื่น ปรากฏการณ์ต่างๆ ในสังคมอเมริกันในปัจจุบันนี้บ่งชี้ว่ายังไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนภาวะนี้ได้
นอกจากข่าวการเมืองซึ่งมักเป็นเรื่องใหญ่รายวัน ยังมักมีเหตุการณ์เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนทำร้ายกันแต่ไม่เป็นข่าว นอกจากจะเป็นเรื่องสะเทือนขวัญจำพวกการสังหารหมู่
ล่าสุดเกิดในรัฐเมนในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อชายวัยกลางคนใช้ปืนยิงเร็วแบบที่ใช้ในสงคราม กราดยิงในร้านอาหารและอาคารสันทนาการ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คนและบาดเจ็บ 13 คน ผู้เสียชีวิตอายุ 14-76 ปี และมีผู้พิการหูหนวก 4 คน
ข้อมูลบ่งว่า ในช่วงเวลา 300 กว่าวันจากวันที่ 1 ม.ค.-31 ต.ค.ปีนี้ มีการยิงหมู่เกิดขึ้นในสหรัฐ 520 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 621 คนและบาดเจ็บ 2,126 คน ชาวอเมริกันมีสิทธิครอบครองอาวุธปืนมาตั้งแต่ครั้งก่อตั้งประเทศ ย้อนไปในสมัยโน้น ปืนเป็นจำพวกอัดดินปืนและลูกปืนเข้าไปในกระบอกก่อนยิง ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในการกีฬาและล่าสัตว์
หลังเวลาผ่านไปใกล้ 250 ปี ปืนมีศักยภาพสูงมากจนสามารถยิงได้นาทีละนับร้อยนัด ซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้ในการกีฬาและล่าสัตว์ แต่สามารถใช้ในการสังหารหมู่ได้ภายในพริบตา
แม้จะมีชาวอเมริกันจำนวนมากเคลื่อนไหวให้รัฐบาลตรากฎหมายห้ามประชาชนมีอาวุธจำพวกนั้นไว้ในครอบครอง แต่ยังไม่เป็นผล เนื่องจากนักการเมืองส่วนใหญ่ไม่กล้าหักดิบกลุ่มเศรษฐีที่มีผลประโยชน์ในกิจการผลิตและค้าปืน
ผลอันสำคัญยิ่งของการมีบทบาทสูงของพวกเศรษฐีในการกำหนดนโยบายของรัฐ ได้แก่ การได้ส่วนแบ่งจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังผลให้จำนวนคนจนไม่ลดลงและความเหลื่อมล้ำนับวันจะยิ่งเลวร้าย ในช่วงนี้มีชาวอเมริกันเกือบ 40 ล้านคน หรือราว 12% ของประชากรถูกจัดให้อยู่ในหมู่ผู้มีรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพเบื้องต้น หรือเป็นคนจนมาก
ความเหลื่อมล้ำที่เลวร้ายขึ้นนี้มีผลกระทบต่อชาวอเมริกันส่วนหนึ่งสูงมาก เนื่องจากพวกเขาอยู่ท่ามกลางการล้างสมองของแนวคิดเศรษฐกิจกระแสหลัก ที่เน้นการขยายตัวสูงสุดเพื่อเอื้อให้ทุกคนบริโภคเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
สัดส่วนของคนจนที่ไม่ลดลงและความไม่สมหวังท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้คนรวยสามารถบริโภคแบบหลุดโลกได้ก่อให้เกิดปัจจัยที่ทำให้สังคมแตกแยกร้ายแรงเพิ่มขึ้น อันเป็นเสมือนสนิมภายในที่ค่อยๆ ลุกลามทำให้เกิดภาวะตายผ่อนส่งขึ้นอีกด้านหนึ่งในสังคมอเมริกัน
“ภาวะตายผ่อนส่ง” เป็นกระบวนการอันยาวนานที่ฟันธงไม่ได้ว่าเมื่อไรสังคมจะล่มจม หรือเป็นรัฐล้มเหลว แต่ประเด็นใหญ่ของโลกปัจจุบันมิได้อยู่ที่สหรัฐจะเดินไปถึงจุดนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อไร หากอยู่ที่การคาดการณ์และพฤติกรรมตอบสนองของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า
ฝ่ายนี้ไม่นิยมระบอบประชาธิปไตย แต่ใช้แนวคิดเศรษฐกิจกระแสหลักที่มีการบริโภคเพิ่มขึ้นเป็นหัวจักรขับเคลื่อนเหมือนกับสหรัฐ
เนื่องจากระบอบประชาธิปไตยในสหรัฐมีความเป็นประชาธิปไตยจริงๆ น้อยลง และประวัติของสหรัฐบ่งว่าไม่รังเกียจผู้ไม่ใช้ระบอบประชาธิปไตย ตราบใดที่ผู้นั้นไม่ต่อต้านการดำเนินนโยบายของตน การแข่งขันของสองฝ่ายจึงจะไม่อยู่ในด้านอุดมการณ์ทางการเมืองการปกครอง หากอยู่ทางด้านการแสวงหาทรัพยากรไปป้อนเศรษฐกิจ
ฝ่ายต่อต้านสหรัฐมีความจำเป็นต้องแสวงหาแหล่งทรัพยากรเพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วนมากกว่า เพราะเศรษฐกิจของตนยังไม่สามารถเอื้อให้ประชาชนบริโภคได้ในระดับเดียวกับชาวอเมริกันโดยทั่วไป แหล่งไหนที่มีทรัพยากรในความต้องการ แหล่งนั้นจะเป็นสนามช่วงชิง ซึ่งอาจเข้มข้นจนนำไปสู่การเป็นสนามสงครามตัวแทน
ด้วยเหตุนี้ ประเทศที่มีทรัพยากรมากอาจถูกสาปให้รับเป็นสนามรบต่อไปในแนวยูเครน