สหรัฐเริ่มทนไม่ไหว ยอมรับ 'มีชาวปาเลสไตน์ตายมากเกินไป'
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากเกินไปแล้วในสงครามอิสราเอล-ฮามาส ชี้ต้องทำอะไรมากขึ้นเพื่อปกป้องชาวปาเลสไตน์ หลังจากอิสราเอลยอมพักรบในฉนวนกาซาชั่วคราว
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมระดับรัฐมนตรีสหรัฐ-อินเดีย ที่กรุงนิวเดลี วานนี้ (10 ต.ค.) ว่า ต้องมีการดำเนินการเพื่อปกป้องชีวิตพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาให้มากขึ้น รวมถึงการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่
พร้อมกันนี้ บลิงเคนยังกล่าวชื่นชมการตัดสินใจของอิสราเอลที่ดำเนินการพักรบชั่วคราวทันทีเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่าการดำเนินการเช่นนี้จะเป็นก้าวย่างที่ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้ได้
"มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารมากเกินไป ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านๆ มามีคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานมากเกินไป เราจะทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อช่วยปกป้องพวกเขา และส่งความช่วยเหลือไปถึงพวกเขาให้ได้มากที่สุด"
"เพื่อการนั้น เราจะยังคงเดินหน้าเจรจากับอิสราเอลต่อไป เพื่อสร้างหนทางไปสู่เป้าหมายเหล่านี้" บลิงเคน กล่าว
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐ มีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันรอบด้านมากขึ้น ทั้งจากประเทศพันธมิตรต่างๆ และจากกลุ่มการเมืองภายในประเทศเอง
ล่าสุดในวันนี้ (11 ต.ค.) ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ให้สัมภาณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า "อิสราเอลต้องหยุดสังหารเด็กและผู้หญิงในฉนวนกาซาได้แล้ว"
ผู้นำฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลในพระราชวังเอลิเซว่า แม้ฝรั่งเศสจะมีจุดยืนชัดเจนในการประณามกลุ่มก่อการร้ายฮามาส และสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลที่จะปกป้องตัวเอง แต่การทิ้งระเบิดและทำให้มีพลเรือนต้องบาดเจ็บล้มตายนั้นไม่ใช่ความชอบธรรมที่จะสามารถทำได้ และการหยุดยิงจะเป็นประโยชน์ต่ออิสราเอลเอง