‘อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป’ เชื่อมสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ก่อนผู้นำพบกันพุธนี้
การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนนอกรอบการประชุมผู้นำเอเปคที่นครซานฟรานซิสโกในสัปดาห์นี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องดูมีความหมายไปหมด
นั่นเพราะจะเป็นการพบกันครั้งแรกของสองผู้นำในรอบเกือบหนึ่งปี นับตั้งแต่การประชุมผู้นำ G20 ที่บาหลี อินโดนีเซียปีก่อน และไบเดนจะได้พบกับสีครั้งแรกบนแผ่นดินสหรัฐ
ทั้งนี้ สองมหาอำนาจตึงเครียดกันมานานในทุกๆ เรื่อง ก.พ.ปีนี้เกิดเหตุสหรัฐยิงบอลลูนสอดแนมของจีนตกเหนือน่านฟ้าสหรัฐ แต่สหรัฐก็พยายามปรับความสัมพันธ์ด้วยการส่งผู้แทนระดับสูงไปเยือนจีนหลายคณะ อาทิ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เจนเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคนอื่นๆ หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนก็มาเยือนวอชิงตัน เพื่อปูทางให้ประธานาธิบดีสีมาร่วมประชุมเอเปค ระหว่างนั้นฝ่ายสหรัฐส่งคำเชิญมาแล้ว แต่สียังไม่คอนเฟิร์มเสียทีว่าจะมาหรือไม่มา
และแล้วคำตอบก็ออกมาจนได้ เมื่อจีนยืนยันแผนการเดินทางของสีในคืนวันศุกร์ (10 พ.ย.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่วงฟิเลเดลเฟีย ออเคสตร้ากำลังสิ้นสุดการแสดงในกรุงปักกิ่ง เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีการแสดงคอนเสิร์ตในประเทศจีนเมื่อปี 1973 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหรัฐเริ่มปรับความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนคอมมิวนิสต์จนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกันในปี 1979 ในวาระฉลอง 50 ปีคอนเสิร์ตนี้ทั้งไบเดนและสีต่างส่งจดหมายอวยพรมาให้อ่านก่อนเปิดการแสดง
หลังคอนเสิร์ตจบ มาเทียส ทาร์โนโพลสกี ซีอีโอและประธานฟิลาเดลเฟีย ออเคสตร้า กล่าวกับผู้สื่อข่าว “แม้จะขึ้นๆ ลงๆ ฟิลาเดลเฟีย ออเคสตร้า ยังมาจีนตลอด แม้แต่ช่วงเวลาแย่ที่สุดฟิลาเดลเฟีย ออเคสตร้าก็มา ช่วงเวลาดีที่สุดก็มา” ประธานวงกล่าวและว่าฟิลาเดลเฟีย ออเคสตร้า วงมีแผนจะกลับมาเปิดการแสดงในจีนอีกครั้งปี 2567 และปีต่อๆ ไป
จากบทบาทของวงดนตรีวงหนึ่ง สู่ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ สะท้อนให้เห็นชัดเจน “อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป ย่อมใช้ได้ดั่งจินดาค่าบุรินทร์” ดังที่สุนทรภู่ กวีเอกของไทยว่าไว้