ผักชีโรยหน้าซานฟรานซิสโก สหรัฐซุก‘คนไร้บ้าน’ รับเวทีเอเปค
'คนไร้บ้านและยาเสพติด' กลายเป็นประเด็นใหญ่ในสหรัฐอีกครั้งเมื่อสหรัฐเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ที่ซานฟรานซิสโก เมืองที่ไม่ได้มีแค่ซิลิคอนวัลลีย์ แต่ยังมีปัญหาคนไร้บ้านและเศรษฐกิจเสื่อมโทรมที่สหรัฐต้องซุกไว้ชั่วคราว
นอกจากจะตระเตรียมศูนย์การประชุมมอสโคน โรงแรมที่พัก และสถานที่ต่างๆ เพื่อเตรียมรับการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ในสัปดาห์นี้แล้ว ยังมีรายงานว่าสหรัฐได้เคลียร์พื้นที่ถนนย่านใจกลางเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีทั้งผู้เสพ-ผู้ค้ายาเสพติด และคนไร้บ้าน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังในเมืองแห่งนี้มาหลายปี
การเคลียร์พื้นที่ยังมีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางมาเยือนซานฟรานฯ ครั้งแรกในรอบ 6 ปี แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับพลเมืองท้องถิ่นที่เดือดร้อนจากปัญหาอาชญากรรมในเมือง เพราะมองว่าเป็นแค่ “การเคลียร์พื้นที่ระยะสั้น”
เตนท์และกองขยะที่เรียงรายเป็นแถว ได้ถูกกำจัดออกไปเพื่อทำความสะอาดทางเท้าและรั้วเหล็กสีดำ และไม่เห็นกลุ่มคนซื้อ-ขายและเสพยาเสพติดอย่างเปิดเผยอีกเลย นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 พ.ย. ซึ่งเป็นวันก่อนการประชุมเอเปค ที่เริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 11 พ.ย. จนถึงวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. ซึ่งคาดว่าผู้เข้าร่วมมากถึง 30,000 คน และหนึ่งในประเด็นที่คาดว่าสองผู้นำประธานาธิบดีสี และประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะหยิบยกขึ้นมาหารือคือ "เฟนทานิล"
ยาดังกล่าวซึ่งส่วนใหญ่ผลิตในจีน เป็นยาบรรเทาปวดขั้นรุนแรงในกลุ่มโอปิออยด์ที่มีฤทธิ์แรงกว่าเฮโรอีน 50 เท่า และมอร์ฟีน 100 เท่า แต่มีการนำไปใช้ร่วมกับยาเสพติดและเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง โดยเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดมากกว่า 100,000 รายเมื่อปีก่อน และทำให้หลายพื้นที่ในเมืองใหญ่อย่าง ฟิลาเดเฟีย, ซานฟรานซิสโก และบัลติมอร์ กลายเป็นเมืองร้างที่เต็มไปด้วยคนติดยา หรือที่เรียกว่า “ซอมบี้”
เมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ซานฟรานซิสโกเริ่มเคลียร์พื้นที่ทางแยก 7 แห่งในย่านเทนเดอร์ลอยน์ และเซาท์มาร์เก็ต หรือโซมา ในซานฟรานฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเตนท์ของคนไร้บ้าน และเป็นสถานที่ที่พบเห็นผู้ติดยาเฟนทานิลและเฮโรอีนปริมาณสูงบนถนนได้ทุกวัน
“ริซซี ลี วินน์” ชาวเมืองในโซมาและนักกิจกรรมชุมชน เผยกับสำนักข่าวนิวยอร์กโพสต์ว่า “เจ้าหน้าที่เริ่มเคลียร์เตนท์ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ใกล้ ๆ มอสโคนเซ็นเตอร์แถวถนนฮาวเวิร์ด แสดงให้เห็นว่าเมืองมีความสามารถในการทำอะไรแบบนี้ได้อยู่แล้ว แต่ลงมือทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเอเปคจบลง ตำรวจก็จะปฏิบัติหน้าที่น้อยลง เตนท์เหล่านั้นจะกลับมา และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอีก สิ่งที่เราต้องการคือ แนวทางแก้ไขปัญหาแบบถาวร”
เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ในสำนักงานรัฐบาลกลางแนนซี เพโลซี ที่ตั้งอยู่ตรงมุมถนนเซเวนธ์และมิชชัน ได้รับคำแนะนำให้ทำงานจากที่บ้าน เพราะพบว่ามีการซื้อขายยาเฟนทานิลอยู่ด้านนอก และมีผู้เสพหลายสิบคนรวมตัวกันอยู่บริเวณทางเข้าและตรอกซอกซอยที่อยู่ติดกัน ซึ่งดูอันตรายเกินไปสำหรับการเข้าไปทำงานในสำนักงาน จากนั้นพื้นที่ดังกล่าวจึงทำรั้วกั้น ผู้ค้ายาและผู้เสพยาก็หายไป เปิดทางให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำงานในสำนักงานได้อย่างปลอดภัย
ด้านพลเมืองและผู้ประกอบการท้องถิ่น เผยกับนิวยอร์กโพสต์ว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนผลักให้คนไร้บ้านไปหาที่อยู่อื่น ๆ ในเมืองแทน และความพยายามต้อนฝูงชนคนไร้บ้านและคนเสพยาออกจากพื้นที่ เป็นเพียงแค่พลาสเตอร์ยาที่ปกปิดปัญหาร้ายแรง เนื่องจากการใช้ยาเกินขนาดยังคงแพร่ระบาดไปทั่วเมือง
“อดัม เมสนิก” นักธุรกิจและพลเมืองย่านโซมา เผยว่า เขาเห็นบ้านพักชั่วคราวของคนไร้บ้านในหลายโรงแรมช่วงสัปดาห์ก่อน
“เจ้าหน้าที่ก็แค่ต้อนปัญหาออกไปจากพื้นที่ แต่ไม่เสนอแผนแก้ปัญหาระยะยาวสักที ผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ต้องทำเป็นเขตกักกันเพื่องานเอเปค ดังนั้น ปัญหาเหล่านั้นเลยถูกผลักมาพื้นที่ที่ผมอยู่ ซึ่งก็เต็มไปด้วยสังคมที่มีคนใช้ยาอยู่แล้ว ผมไม่รู้ว่าเตนท์เหล่านี้จะเผยให้เห็นในงานเอเปคหรือไม่ แต่แทบเป็นไม่ได้ที่จะกำจัดเตนท์เหล่านั้นออกไปจากพื้นที่ทั้งหมด”
การใช้ยาเกินขนาดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเฟนทานิล ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในซานฟรานซิสโก
ตามข้อมูลของสำนักงานหัวหน้าแพทย์ชันสูตรที่เผยแพร่เมื่อเดือนก่อน ระบุว่า ซานฟรานฯ อาจมีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดมากเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวทะยานแตะ 800 รายแล้ว
“ดร.ฮิลลารี คูนินส์” ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพพฤติกรรมซานฟรานซิสโก เผยกับสำนักข่าวท้องถิ่น KRON เมื่อเดือน ต.ค. ว่า “ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. หรือในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2566 มีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดทั้งสิ้น 620 ราย นั่นหมายความว่า มีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดโดยเฉลี่ย 2 คนต่อวัน และส่วนใหญ่มาจากการใช้ยาเฟนทานิล”
ด้านผู้บริหารเมืองต่าง ๆ หวังว่าการประชุมเอเปคจะเป็นแรงกระตุ้นที่ช่วยให้ซานฟรานซิสโกฟื้นชีพใหม่ หลังผู้ค้าปลีกและแรงงานด้านเทคโนโลยีอพยพออกจากเมือง และอาชญากรรมในเมืองเพิ่มสูงขึ้น
“อารอน เพสกิน”ประธานคณะกรรมการกำกับซานฟรานซิสโก เผยว่า เอเปคเป็นโอกาสครั้งใหญ่ และเจ้าหน้าที่ได้วางแผนควบคุมพื้นที่ที่เป็นปัญหาให้เหลือน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้เมืองซานฟรานฯ เพิ่มเตียงอีก 300 เตียงในศูนย์พักพิงคนไร้บ้านแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีพื้นที่ว่างเท่าไรในช่วงการประชุมเอเปค
ขณะที่กลุ่มสนับสนุนคนไร้บ้านกังวลว่า เมืองไม่ได้แก้ไขปัญหาพื้นฐานจริง ๆ
“เจนนิเฟอร์ ฟรีเดนแบช” กรรมการบริหารองค์กรสนับสนุนคนไร้บ้าน บอกว่า “การที่เจ้าหน้าที่แค่พยายามซ่อนการปรากฏตัวของคนไร้บ้านมากกว่าแก้ไขปัญหา เป็นการเคลียร์ปัญหาแบบผิวเผินเท่านั้น”