หุ้น ‘ไมโครซอฟท์-อินวิเดีย’กอดคอทำนิวไฮ หลังการโยกย้ายอดีตซีอีโอ OpenAI

หุ้นของไมโครซอฟท์ (Microsoft ) แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 378.81 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ภายหลังจากสุดสัปดาห์ที่วุ่นวายในภาคส่วนของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เกี่ยวข้องกับการขับไล่ CEO ของ OpenAI และผู้ร่วมก่อตั้ง"แซม อัลท์แมน" (Sam Altman )

นอกจากนี้ หุ้นของอินวิเดีย Nvidia ยังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 499.60 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีที่ 138.84 ดอลลาร์

หุ้นทั้งสองตัวพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตแบบ end-over-end เนื่องมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในสาขา AI ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจาก deep learning  และ generative models เช่น ChatGPT ของ OpenAI

ในกรณีของไมโครซอฟท์ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าการผลักดันของราคาหุ้นเป็นผลจาก อัลท์แมนอดีต CEO ของOpenAI ที่ได้ตกลงที่จะร่วมงานกับ ไมโครซอฟท์

หลังจากที่ อัลท์แมนถูกคณะกรรมการบริหารของ OpenAI ไล่ออกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน  ในตอนแรกจะมีการดันมิรา มูราตี( Mira Murati )ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัทให้เป็นซีอีโอชั่วคราว 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานมูราตีก็ถูกแทนที่โดยเอมเมทท์ เชียร์( Emmett Shear) อดีต CEO ของ Twitch

เริ่มต้นใหม่ไมโครซอฟท์

ในขณะเดียวกัน ทั้ง อัลท์แมนและผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI อย่างเกร็ก บร็อคแมน  (Greg Brockman) มีรายงานว่าพวกเค้าตกลงที่จะเป็นหัวหน้าแผนก AI ใหม่ที่ไมโครซอฟท์ แม้ว่าบริษัทที่นำโดย สัตยา นาเดลลา( Satya Nadella )จะลงทุนประมาณ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ใน OpenAI ก็ตาม

หุ้นของ ไมโครซอฟท์ พุ่งสูงขึ้นจากข่าวนี้ แม้ว่าราคาหุ้นทั้งหมดจะปรับตัวขึ้นอย่างมั่นคงตลอดช่วงเกือบปี 2566

โดยหุ้น AI ที่โดดเด่นอื่น ๆ จำนวนมากก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผลตอบแทนสูง ควบคู่ไปกับหุ้นที่ทำกำไรได้มากที่สุด ได้แก่ ไมโครซอฟท์และ อินวิเดีย รวมถึง IBM และ Tencent

ในส่วนของราคาหุ้น อินวิเดีย เกิดขึ้นเมื่อบริษัทยังรักษาตำแหน่งในฐานะผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์การฝึกอบรม artificial intelligence  โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดสูงเนื่องจากหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ส่งผลให้ราคาสำหรับรุ่นเรือธงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

อ้างอิง : cointelegraph