ราคาน้ำมัน WTI พุ่งกว่า 3% ขานรับผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(14ธ.ค.)พุ่งขึ้นกว่า 3% ขานรับผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วานนี้ ซึ่งเฟดส่งสัญญาณยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก 2.11 ดอลลาร์ หรือ 3.04% สู่ระดับ 71.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 2.35 ดอลลาร์ หรือ 3.16% ปิดที่ราคา 76.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมี.ค.2567 หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 ในการประชุมวานนี้
ราคาน้ำมัน WTI ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญา ทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ ตลาดได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 650,000 บาร์เรล