ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 1 ดอลล์ หลังสถานการณ์ทะเลแดงเดือด

ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 1 ดอลล์  หลังสถานการณ์ทะเลแดงเดือด

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์(18ธ.ค.)ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 1 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากข่าวรัสเซียลดการส่งออกน้ำมัน และการที่บริษัทเดินเรือรายใหญ่ประกาศระงับการใช้เส้นทางในทะเลแดง ท่ามกลางภัยคุกคามจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ รัสเซียประกาศลดการส่งออกน้ำมัน 50,000 บาร์เรล/วันหรือมากกว่านั้นในเดือนธ.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่ให้คำมั่นสัญญาก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงราคาน้ำมันในตลาดโลก

บริษัทบีพี (BP) ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สัญชาติอังกฤษ ประกาศระงับการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดงในวันนี้ โดยระบุถึงภัยคุกคามจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
 

"ท่ามกลางสถานการณ์ความปลอดภัยที่เลวร้ายลงสำหรับการเดินเรือในทะเลแดง ทางบริษัทจึงได้ตัดสินใจระงับการเดินเรือทั้งหมดในทะเลแดงเป็นการชั่วคราว และเราจะดำเนินการทบทวนอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในภูมิภาค" แถลงการณ์ระบุ

การดำเนินการของบีพีมีขึ้น หลังจากที่บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่ของโลกหลายราย เช่น เมอส์ก (Maersk) ของเดนมาร์ก, ฮาแพค-ลอยด์ (Hapag-Lloyd) ของเยอรมนี, เมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิ้ง (MSC) ของอิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ และซีเอ็มเอ ซีจีเอ็ม (CMA CGM) ของฝรั่งเศส ต่างก็ประกาศระงับการเดินเรือผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบในทะเลแดงก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีหน้า