WHO เตือน ยอดติดโควิดรายใหม่ทั่วโลกเพิ่ม 52% ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา
องค์การอนามัยโลกเตือน (WHO) จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 52% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากว่า 850,000 ราย แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และตรวจหาเชื้อเมื่อมีอาการ
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยวานนี้ (23 ธ.ค.) ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 52% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากว่า 850,000 รายในช่วงเวลาดังกล่าว
WHO ระบุในแถลงการณ์ล่าสุดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ลดลง 8% จากช่วง 28 วันที่ผ่านมาซึ่งมีผู้เสียชีวิตรายใหม่มากกว่า 3,000 ราย
นอกจากนี้ ณ วันที่ 17 ธ.ค. มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันมากกว่า 772 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 7 ล้านรายทั่วโลก นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด
ณ วันที่ 18 ธ.ค. JN.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของไวรัสโอมิครอน BA.2.86 นั้นได้ถูกกำหนดให้เป็นไวรัสที่น่าสนใจ (Variants of interest – VOI) เนื่องจากมีความชุกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วโลก ขณะที่สายพันธุ์ EG.5 ยังคงเป็นไวรัสที่น่าสนใจที่ได้รับการรายงานมากที่สุด
จากหลักฐานที่มีอยู่นั้น ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขทั่วโลกเพิ่มเติมที่เกิดจากสายพันธุ์ JN.1 ได้รับการประเมินแล้วว่าอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวในซีกโลกเหนือ เชื้อไวรัสสายพันธุ์ JN.1 ก็อาจจะเพิ่มภาระ โดยจะมีการติดเชื้อทางเดินหายใจในหลายประเทศ
WHO ระบุว่า ในปัจจุบันการฉีดวัคซีนยังคงป้องกันการเกิดโรครุนแรงและการเสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ JN.1 รวมถึงสายพันธุ์อื่น ๆ ของไวรัสโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ โรคโควิด-19 ไม่ใช่โรคทางเดินหายใจชนิดเดียวที่แพร่ระบาด ขณะที่ไข้หวัดใหญ่, RSV และโรคปอดบวมที่พบบ่อยในเด็กก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อและการเกิดโรคร้ายแรงโดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น หรือเป็นพื้นที่ปิด หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก, ให้รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากผู้อื่น, ปิดปากเมื่อไอและจาม, ล้างมือบ่อย ๆ และเข้ารับการตรวจเชื้อหากมีอาการ หรืออาจสัมผัสติดต่อกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือไข้หวัดใหญ่