เจ้าหน้าที่สหรัฐมอง ระเบิดอิหร่านคล้ายฝีมือไอเอส

ตามที่เมื่อวันพุธ (3 ม.ค.) เกิดเหตุระเบิดสองครั้งห่างกัน 20 นาที ในงานรำลึกการเสียชีวิตของนายพลคัสเซม โซไลมานี ที่สุสานในเมืองเคอร์มาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน

ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ประณาม “อาชญากรรมที่ชั่วร้ายไร้มนุษยธรรม” อยาตอลเลาะห์ คาเมนี ผู้นำสูงสุดอิหร่านลั่นจะแก้แค้นผู้ก่อเหตุ ที่ถึงบัดนี้ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างว่าเป็นคนลงมือ 

หลายประเทศ อาทิ รัสเซียและตุรกี ประณามการโจมตี คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เรียกร้องนำคนผิดมาลงโทษ

นายบาห์ราม อีนอลลาฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของรัฐ ยอดผู้เสียชีวิตลดลงจาก 103 คน มาอยู่ที่ 95 คน บาดเจ็บ 211 คน ถือเป็นการโจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ที่เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาหลายครั้งจากหลายๆ กลุ่มรวมทั้งกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในกรุงวอชิงตันว่า เหตุระเบิดดูเหมือนเป็น “การโจมตีก่อการร้าย” อย่างที่กลุ่มไอเอสเคยทำในอดีต

ที่ผ่านมาเมื่อมีการโจมตีสถานที่หรือบุคคลในประเทศ อิหร่านมักกล่าวโทษอิสราเอลซึ่งอิสราเอลไม่เคยยืนยันหรือปฏิเสธข้ออ้างนี้ แต่รอบนี้ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวเผยว่า สหรัฐไม่เห็นข้อบ่งชี้ว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง

เจ้าหน้าที่อิหร่านคนหนึ่งกล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตนกับสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการ “ระเบิดสองลูกถูกฝังอยู่ริมถนนไปสุสานผู้รักชาติแห่งเคอร์มาน ผู้ก่อการร้ายจุดชนวนจากทางไกล”

ย้อนรอยการโจมตีในอดีต

ในปี 2565 กลุ่มไอเอสซึ่งเป็นมุสลิมซุนนีอ้างว่า เป็นผู้โจมตีศาสนสถานชีอะห์ในอิหร่าน คร่าชีวิต 15 คน

ปี 2560 ไอเอสโจมตีพุ่งเป้ารัฐสภาอิหร่านและสุสานอยาตอลเลาะห์ รูฮอลลาห์ โคไมนี ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน กลุ่มติดอาวุธบาลูจิและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาติพันธุ์อาหรับอื่นๆ ก็เคยโจมตีในอิหร่านด้วย

ส่วนการสังหารนายพลโซไลมานีเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2563 สหรัฐใช้โดรนโจมตีที่สนามบินแบกแดด รัฐบาลเตหะรานตอบโต้ด้วยการโจมตีฐานทัพอิรักสองแห่งที่ทหารสหรัฐประจำการ จนสหรัฐกับอิหร่านเกือบขัดแย้งกันเต็มรูปแบบ