คนไทยรักอาหารญี่ปุ่น เจโทรเผยผลสำรวจ พบร้านอาหาร 5,751 แห่ง ตจว.โตต่อเนื่อง
เจโทร กางผลสำรวจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยละเอียด ! พบร้านอาหารมากถึง 5,751 แห่ง บ่งชี้ คนไทยรักอาหารญี่ปุ่น ! ขณะที่ต่างจังหวัดมีร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เจโทรย้ำ เดินหน้าทำแคมเปญหนุนวัตถุดิบญี่ปุ่นพรีเมียม รุกตลาดต่างจังหวัดไทยมากขึ้น
องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ เผยผลสำรวจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วง 15 ส.ค. ถึง 31 ต.ค. 2566 พบว่า จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะต่างจังหวัด
คุโรดะ จุน ประธานเจโทร ระบุ ในปี 2566 ประเทศไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งสิ้น 5,751 ร้าน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 426 ร้าน หรือเติบโต 8% โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
รูปภาพและข้อมูลจากเจโทร
- ร้านอาหารญี่ปุ่นเติบโตต่อเนื่อง
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เจโทรสำรวจ แบ่งออกเป็น 13 ประเภท ได้แก่ ซูชิ, ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น, ราเมง, สุกี้/ชาบู, อิซากายะ, ยากินิกุ, คาเฟ่, ดงบุริ, แกงกะหรี่/ข้าวห่อไข่, อาหารตะวันตก, อาหารทอด, เทปเปนยากิ และโซบะ/อุด้ง ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ร้านอาหารที่มีมากที่สุดคือร้านซูชิ มีทั้งหมด 1,372 แห่ง
เมื่อเทียบประเภทร้านอาหารต่างๆ ระหว่าง กรุงเทพฯ ปริมณฑลทั้ง 5 จังหวัด และต่างจังหวัดอื่น ๆ พบว่า ร้านอาหารอิซากายะและยากินิกุ มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจ โดยจังหวัดปริมณฑล ร้านอิซากายะเติบโตจากปี 2565 43.5% ขณะที่ต่างจังหวัด ร้านยากินิกุเพิ่มขึ้นจากปี 2565 33.9%
- ต่างจังหวัดนิยมอาหารญี่ปุ่นราคาถูก
จากการสำรวจราคาอาหารเฉลี่ยต่อหัวพบว่า ราคาอาหารที่ระดับ 101-250 บาท มีจำนวนมากที่สุดที่ 2,040 ร้าน รองลงมาเป็นราคาเฉลี่ยที่ 251-500 บาท อยู่ที่ 1,333 ร้าน
เมื่อแยกตามพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด พบว่า ราคาอาหารเฉลี่ยต่อหัวทั้ง 3 พื้นที่อยู่ที่ 101-250 บาทมากที่สุด รองลงมาเป็นราคาเฉลี่ย 251-500 บาทเช่นกัน แต่ในกทม.มีร้านอาหารราคา 501-1000 บาทมากเป็นอันดับที่ 3 ต่างจากปริมณฑลและต่างจังหวัดที่อันดับ 3 เป็นร้านอาหารระดับราคาต่ำกว่า 100 บาท บ่งชี้ต่างจังหวัดและปริมณฑลไทยนิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่มีราคาถูกมากกว่าคนเมือง
สำหรับความกระจายตัวของร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยเมื่อเทียบปี 2566 กับปี 2561 พบว่าจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นเติบโตโดยรวม 1.9 เท่า โดยในกทม. เติบโต 1.5 เท่า ปริมณฑล 2.2 เท่า และต่างจังหวัด 2.5 เท่า
รูปภาพและข้อมูลจากเจโทร
จากรูปแสดงให้เห็นว่าจังหวัดที่ยังไม่เคยพบร้านอาหารญี่ปุ่นในปี 2561 เริ่มมีร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วในปี 2566 และจังหวัดที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นแต่เดิม ก็มีร้านเพิ่มมากขึ้น ดังเห็นได้จากสีแดงที่ปรับเฉดเข้มขึ้นตามจำนวนร้านอาหาร
ทั้งนี้ จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 6 ของโลก ส่วนอันดับหนึ่งเป็นประเทศจีนและเกาหลีใต้ มีร้านอาหารญี่ปุ่น 78,760 แห่ง และ 18,210 แห่งตามลำดับ แต่เมื่อคำนวณจำนวนร้านอาหารต่อหัวพบว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนร้านอาหารมากเป็นอันดับที่ 4 เทียบเท่ากับสหรัฐ เจโทรจึงมองว่าไทยยังสามารถมีร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นได้อีกเพราะยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว
- ความเห็นจากผู้ประกอบการ
หลังเจโทรได้สัมภาษณ์ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยช่วง 1 พ.ย. ถึง 28 ธ.ค. พบว่า ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องหลายคนเห็นว่า การรับประทานอาหารนอกบ้านของชาวไทยกลับสู่ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ขณะที่จำนวนต่างชาติก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ยังไม่ฟื้นตัวเท่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แต่จำนวนลูกค้าและยอดขายฟื้นกลับมาที่ระดับ 80-90% ของระดับช่วงก่อนเกิดโควิด
อย่างไรก็ตาม จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันร้านอาหารญี่ปุ่นสูงในทุกภูมิภาคและทุกประเภทร้าน
โดยร้านซูชิในปี 2566 ลดลงจากปี 2565 4.1% เนื่องจากปัจจัยหลายด้าน อาทิ การแข่งขันสูงเพราะมีร้านซูชิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนมองว่า ร้านอาหารญี่ปุ่นประเภท ราเมง สุกี้/ชาบู อิซากายะและยากินิกุ มีความต้องการสูงและร้านอาหารประเภทนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนอุปสรรคในการประกอบธุรกิจร้านอาหาร ผู้ประกอบการหลายคนมองว่ามาจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการเห็นตรงกันว่า ร้านอาหารญี่ปุ่นยังคงได้รับความนิยมในไทยต่อไป แม้จะมีอุปสรรคต่าง ๆ เช่น การปรับตัวให้เข้ากับความชื่นของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และคาดว่าในอนาคตจะมีหลายรูปแบบมากขึ้น รวมทั้งเป็นที่นิยมมากขึ้นในต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวและจังหวัดที่มีประชากรมาก
- คนไทยต้องได้ทานวัตถุดิบแท้จากญี่ปุ่น
จากข้อมูลการสำรวจดังกล่าว เจโทรจึงมุ่งมั่นสนับสนุนร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการใช้วัตถุดิบแท้จากญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดการรับรู้และหนุนการส่งออกวัตถุดิบญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
ประธานเจโทร กล่าวว่า การเชิญชวนให้ร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างจังหวัดมาใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการส่งออกสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น
ฮิโรกิ ทานิงุจิ ผู้อำนวยการแผนกเกษตรและอาหาร เจโทร (ซ้าย) คุโรดะ จุน ประธานเจโทร (ขวา)
เจโทร กรุงเทพฯ ดำเนินกิจกรรมเชิงรุกในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2566 โดยที่ผ่านมาได้จัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารและร้านค้าปลีกในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจเฉพาะในต่างจังหวัดครั้งแรกของเจโทร
นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 ที่ผ่านมา เจโทรได้จัดแคมเปญประชาสัมพันธ์วัตถุดิบอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ชื่อแคมเปญ “Made in JAPAN on tour วัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ ยกญี่ปุ่นมาไว้ใกล้บ้าน” ในทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
"เจโทร กรุงเทพฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าการเพิ่มจำนวนของร้านอาหารญี่ปุ่นจะส่งผลให้การนำเข้าและการค้าวัตถุดิบอาหารจากประเทศญี่ปุ่นขยายตัวต่อไป” คุโรดะ กล่าวทิ้งท้าย