BYD ทุ่ม 1.3 พันล้านดอลลาร์ ตั้งโรงงานรถ EV อินโดนีเซีย วางเป้าผลิต 1.5 แสนคัน

สำนักข่าวนิเคอิรายงานถึง บีวายดี (BYD) บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกจากจีน ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ประเภทใช้แบตเตอรี่จำนวน 3 รุ่นในประเทศอินโดนีเซียในวันนี้ (18 ม.ค.) บีวายดีระบุว่าจะเริ่มจำหน่ายรถแฮทช์แบ็กรุ่น “ดอลฟิน” (Dolphin), รถยนต์เอนกประสงค์เอสยูวีรุ่น “แอทโต้ 3” (Atto 3) และรถซีดานรุ่น “ซีล” (Seal)

หลังจากที่ บีวายดีได้เบียดเทสลาก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่ที่สุดของโลกในไตรมาส 4 ปี 2566 โดยยอดขายรถบีวายดีส่วนใหญ่จากทั้งหมด 526,000 คันในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในตลาดจีน ซึ่งในปี 2566 บีวายดีขายรถ EV ได้ทั้งหมด 3.02 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงรถ EV ประเภทแบตเตอรี่และปลั๊กอินไฮบริด

BYD รุกตลาด EV อินโดนีเซีย

ในขณะที่ บีวายดีพยายามขยายฐานธุรกิจในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย บีวายดีทำยอดขายรถ EV ในอินโดนีเซียได้ดีกว่าผู้ผลิตยานยนต์อื่น ๆ โดยได้แรงหนุนจากราคาที่จับต้องได้และการจับมือเป็นพันธมิตรกับตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น นอกจากนี้ บีวายดีได้ให้บริการรถโดยสารและรถแท็กซี่ไฟฟ้าผ่านพันธมิตรในอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียจะเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษีให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้สามารถนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์จนถึงปี 2568 ในขณะที่จาการ์ตาพยายามดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น

กฎใหม่นี้จะยกเลิกภาษีนำเข้าและภาษีการขายสินค้าฟุ่มเฟือยของยานพาหนะสำเร็จรูปที่นำเข้ามาในประเทศ และสร้างแรงจูงใจเพิ่มด้วยการลดภาษีที่จัดเก็บโดยรัฐบาลท้องถิ่นด้วย อย่างไรก็ตาม จำนวนบริษัทยานยนต์ที่สามารถนำเข้าได้จะขึ้นอยู่กับขนาดการลงทุนและความคืบหน้าการพัฒนาของโรงงาน และต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการลงทุน

ตั้งเป้ากำลังผลิต 1.5 แสนคัน

อีเกิล จ้าว (Eagle Zhao) กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของอินโดนีเซียสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ BYD ที่กําลังมองหาการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบนิเวศ EV ของประเทศอินโดนีเซีย

ในขณะเดียวกัน แอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต (Airlangga Hartarto) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า  BYD ประกาศจะลงทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานผลิตและตั้งเป้ามีกำลังในการผลิต 150,000 คัน

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเกือบ 70% ในปีที่แล้ว เป็น 17,051 คันจาก 10,327 คันในปี 2565 และ 687 คันในปี 2564 ตามข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์อินโดนีเซียหรือ Gaikindo

คูคูห์ คูมารา (Kukuh Kumara ) เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์อินโดนีเซีย กล่าวว่าราคาของรถไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปในประเทศ ทำให้ยังคงเป็นความท้าทายสำหรับการรุกตลาดของรถ EV ในอินโดนีเซีย 

“ผู้ซื้อรถ EV ส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้ซื้อครั้งแรก-time ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรวยที่มีเงิน”และเสริมว่าปีที่แล้วรถ EV คิดเป็นเพียง 1.7% ของยอดขายรถยนต์ของอินโดนีเซียทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 1 ล้านคัน

อ้างอิง Nikkei