สีสันเลือกตั้งสหรัฐปี 2024 กับกระแสนิยม‘เทย์เลอร์ สวิฟต์'
สีสันเลือกตั้งสหรัฐปี 2024 กับกระแสนิยม‘เทย์เลอร์ สวิฟต์' โดยที่ผ่านมา สวิฟต์ ไม่เคยบอกต่อสาธารณะว่าจะลงคะแนนเสียงให้ใคร มีเพียงเมื่อปี 2563 ที่เธอประกาศว่าจะเขี่ยโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากทำเนียบขาวด้วยคะแนนเสียงของเธอ
การเมืองสหรัฐปีนี้น่าจับตาเพราะปีนี้เป็นปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี นักวิเคราะห์หลายคนพยายามจับสัญญาณว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรกับขั้วการเมืองสหรัฐ ในฐานะเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก มาดูกันว่ากระแสลมจะเปลี่ยนทิศหรือไม่ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักนำเสนอรายงานว่า ‘เทเลอร์ สวิฟต์’ นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง ที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นบุคคลแห่งปี 2023 อาจมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐ ในปีนี้ หลังจากผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอเมริกัน 1 ใน 5 จะสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งที่นักร้องหญิงคนนี้ให้การรับรอง
ผลสำรวจโดย Redfield & Wilton Strategies ระบุว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง 18% บอกว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะเลือกผู้สมัครที่รับรองโดยสวิฟต์ ขณะที่ปีนี้จะมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหน้าใหม่ที่เป็น Gen Z จำนวน 8 ล้านคน ทำให้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง Gen Z รวมทั้งหมด 41 ล้านคน และส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากบุคคลที่มีชื่อเสียง
ผลสำรวจระบุด้วยว่า ผู้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง 17% บอกว่า ไม่ได้เลือกผู้สมัครตามสวิฟต์ ซึ่งอาจไม่ส่งผลดีนักต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน และยังมีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งอีก 55% ที่ระบุว่า พวกเขาเป็นกลางและไม่โอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง
ที่ผ่านมา สวิฟต์ ไม่เคยบอกต่อสาธารณะว่าจะลงคะแนนเสียงให้ใคร มีเพียงเมื่อปี 2563 ที่เธอประกาศว่าจะเขี่ยโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากทำเนียบขาวด้วยคะแนนเสียงของเธอ
ข้อมูลเหล่านี้มาจากการสำรวจความเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,500 คน ในจำนวนนี้ 45% บอกว่า ชอบสวิฟต์ ส่วน 54% บอกว่า ไม่ใช่แฟนคลับ และอีก 6% บอกว่า ไม่เคยฟังเพลงฮิต Shake It Off ของเธอ
กระแสความนิยมในตัวสวิฟต์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทะยานขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบใหม่ หลังจากเธอได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี ประจำปี 2523 ของนิตยสารไทม์ เพราะความสำเร็จจากภาพยนตร์คอนเสิร์ต ดิิ เอราส ทัวร์ และยังมีเรื่องความสัมพันธ์กับนักอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง “ทราวิส เคลซี” ของทีมดังแห่งรัฐมิสซูรี “แคนซัส ซิตี ชีฟส์” ที่กำลังจะทำศึกซูเปอร์โบว์ ครั้งที่ 58 ในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ.นี้
ความดังของสวิฟต์ไม่ได้มีแค่นี้ ทางการบราซิลยังบอกว่า คอนเสิร์ตดิ เอราส ทัวร์ ของนักร้องสาวคนนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของนคร ริโอ เด จาเนโร ให้ดีขึ้นในหลายภาคส่วน
สถาบันภูมิศาสตร์และสถิติแห่งบราซิล (IBGE) เผยแพร่รายงานระบุว่า ในช่วงระหว่างเดือนต.ค.และเดือนพ.ย. ปริมาณการให้บริการในบราซิลเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากลดลงต่อเนื่องตลอด 3 เดือนก่อนหน้านี้ โดยอิทธิพลส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแสดงคอนเสิร์ตของสวิฟต์
รายงานของ IBGE ระบุว่า อิทธิพลจากคอนเสิร์ตของเธอทำให้ธุรกิจการให้บริการด้านที่พักและอาหารเพิ่มขึ้นมากที่สุด เช่นเดียวกับการเติบโตในกิจกรรมโรงละครและงานแสดงดนตรี โดยกิจกรรมเหล่านี้ล้วนได้รับผลกระทบจากงานอีเวนต์ใหญ่ๆ อย่างเช่นคอนเสิร์ต ‘ดิ เอราส์ ทัวร์’ ของสวิฟต์ ที่เกิดขึ้นในเดือนพ.ย.
“รอนนี คอสตา” ประธาน ‘Riotur’ สำนักงานการท่องเที่ยวของริโอ เด จาเนโร กล่าวว่า สวิฟต์ แสดงคอนเสิร์ต 3 รอบในริโอ ซึ่งหนึ่งในนั้นถูกเลื่อนออกไป ทำให้จำนวนวันที่ผู้คนอยู่ในริโอ เด จาเนโร เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ผู้คนจากทั่วบราซิลและจากนานาประเทศหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการและซื้อสินค้า
คอสตา ยังบอกอีกว่า โชว์ของสวิฟต์ ไม่เพียงส่งผลต่ออุตสาหกรรมโรงแรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบาร์และร้านอาหารด้วย และแน่นอนว่าส่งผลต่อเศรษฐกิจของเมืองด้วย โดย ดิ เอราส์ ทัวร์ ช่วยให้เมืองแห่งนี้มีรายได้มากขึ้น แค่ภาษีอย่างเดียวก็สูงถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนผลสำรวจความเห็นจัดทำโดยรอยเตอร์และอิปซอส ระบุว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ มีคะแนนนำประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประมาณ 6% สะท้อนว่าชาวอเมริกันไม่ได้ยินดีกับนัดล้างตาระหว่างทั้งคู่
การสำรวจความเห็นชาวอเมริกัน 1,250 คนเมื่อวันพุธ(24ม.ค.)ที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า ทรัมป์มีคะแนนนำไบเดนที่ 40% ต่อ 34% ในขณะที่ยังมีผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใครดีหรือเลือกจะไม่โหวตให้ทั้งคู่เลย
ผลสำรวจล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่า คะแนนนิยมของทรัมป์กระเตื้องขึ้น เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อต้นเดือนม.ค.โดยรอยเตอร์และอิปซอส ที่ระบุว่า คะแนนนิยมของทรัมป์และไบเดนเท่ากัน
หลังจากที่ทรัมป์กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้น 2 สนามแรกคือ รัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชอร์ในเดือนนี้ ก็ทำให้แนวโน้มที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในเดือนพ.ย. จะกลายเป็นนัดล้างตาระหว่างทรัมป์และไบเดน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ชาวอเมริกันอยากเห็น
ผู้ตอบแบบสอบถามล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์นี้ 67% บอกว่าพวกเขาไม่อยากเห็นผู้สมัครคนเดิม ๆ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี และต้องการจะเห็นคนหน้าใหม่บ้าง ขณะที่ 18% บอกว่าพวกเขาจะไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งหากตัวเลือกที่มีอยู่คือไบเดนและทรัมป์
นอกจากนี้ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังเห็นด้วยว่าไบเดนไม่ควรลงสมัครชิงเก้าอี้สมัยสอง และ 50% มองว่าทรัมป์ไม่ควรลงแข่งอีกครั้ง