จากฤดูนับ “คนไร้บ้าน” ไร้ที่อยู่อาศัย ในอเมริกา
ท่ามกลางความหนาวจนเข้าถึงกระดูกแห่งฤดูกาล พนักงานของรัฐและองค์กรเอกชนทั่วสหรัฐอเมริกา จะฝ่าความหนาวออกไปนับ ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย คนไร้บ้าน ซึ่งเร่ร่อนหาที่หลับนอนหนีการหนาวตาย
การนับจะทำกันในวันไหนก็ได้ในเดือนมกราคมแล้วนำข้อมูลมารวมกันเพื่อฉายภาพของผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในแต่ละปี อีกหลายเดือนการรวบรวมข้อมูลของปีนี้จึงจะเสร็จและเผยแพร่ออกมา
กรุงวอชิงตันและชุมชนชานกรุงบางแห่ง ออกนับและนำข้อมูลมาเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลปรากฏว่า จำนวนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในกรุงวอชิงตันเพิ่มขึ้นในรอบปีจำนวน 512 คน หรือเกือบ 12% เป็น 4,922 คน ใน 512 คนนั้น ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเป็นครั้งแรก
ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐและองค์กรเอกชนให้มีที่หลับนอนภายในอาคารได้เกือบหมดยกเว้น 825 คนที่ยังเร่ร่อนไปหลับนอนตามสถานที่สาธรณะ เนื่องจากกรุงวอชิงตันมีประชากร 7.2 แสนคน จำนวนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจึงเท่ากับ 0.7% ของประชากรทั้งหมด
การเพิ่มขึ้นของผู้ไร้ที่อยู่อาศัยแย้งภาพของภาวะเศรษฐกิจซึ่งอยู่ในระดับดีจนแทบไม่มีผู้ตกงาน ในระดับประเทศ ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันหรือไม่ต้องรอการรวมข้อมูลเสร็จ
อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่เริ่มมีเผยแพร่ออกมาบ่งชี้ว่า แนวโน้มเป็นไปในทางเดียวกัน เมื่อปีที่แล้ว การนับแบบเดียวกันสรุปว่า สหรัฐมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 5.8 แสนคน หรือราว 0.18% ของชาวอเมริกันทั้งหมด
อาจเกิดขอสงสัยว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศมหาอำนาจที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกมีสัดส่วนของผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 4 เท่าของประเทศ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการไร้ที่อยู่อาศัยมีความสลับซับซ้อน อย่างไรก็ดี มีข้อมูลที่ช่วยให้อนุมานได้ว่าปัจจัยหลัก ได้แก่ กรุงวอชิงตันมีชาวอเมริกันผิวดำถึงเกือบ 44% และเชื้อชาติละตินกว่า 8% ในระดับประเทศ
ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยใกล้ 67% มาจาก 2 กลุ่มนี้ทั้งที่ 2 กลุ่มนี้มีประชากรรวมกันเพียง 33% ของชาวอเมริกันทั้งหมดเท่านั้น
ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นปัจจัยทางประวัติศาสตร์และสังคม กล่าวคือ อดีตทาสยังมักขาดโอกาสแม้ประเทศจะประกาศเลิกทาสมาเป็นเวลากว่า 160 ปีแล้วก็ตาม
ความยากจนผลักดันให้คนผิวดำเข้าไปอาศัยอยู่ในย่านที่มีแหล่งเสื่อมโทรมของเมืองต่าง ๆ ย่านนี้มีปัญหาสาหัสเกี่ยวกับอาชญากรรม ยาเสพติดและครอบครัวแตกแยก
สิ่งเหล่านั้นประกอบกันผลักดันให้เกิดวงจรอุบาทว์ ที่พวกเขามักไม่สามารถตีฝ่าออกมาได้ การไร้ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในอาการของความป่วยทางสังคม
นากยกเทศมนตรีของกรุงวอชิงตันแข็งขันในการดำเนินมาตรการลดความไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งลดจำนวนจากกว่า 8,000 คนเมื่อเขาเริ่มเข้ารับตำแหน่ง
หนึ่งในบรรดามาตรการได้แก่บัตรช่วยค่าเช่าห้องซึ่งผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอาจนำไปจ่ายค่าเช่า ปรากฏว่าบัตรเหล่านี้มีเหลือ เทศบาลกำลังศึกษาอยู่ว่าเพราะอะไร ปัจจัยหลักน่าจะเป็นค่าเช่าในเมืองหลวงสูงมากจนเกินกำลังของผู้ไร้บ้าน แม้จะรวมการสนับสนุนผ่านบัตรนั้นแล้วก็ตาม
ปัจจัยนี้มีผลการวิจัยในระดับประเทศเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมายืนยัน นั่นคือ ความแตกต่างทางสัดส่วนของผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ต่าง ๆ มิได้มาจากความยากจน ความเจ็บป่วย หรือการติดยาเสพติด หากมาจากความแตกต่างของราคาบ้าน ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นความแตกต่างทางค่าเช่า
เมืองใหญ่ ๆ ที่มีราคาบ้านสูงมีสัดส่วนของผู้ไร้ที่อยู่อาศัยสูงถึง 5 เท่าของสัดส่วนระดับประเทศ กรุงวอชิงตันเป็นหนึ่งในย่านที่ราคาบ้านสูงมาก
การไร้ที่อยู่อาศัยในสหรัฐเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน การแก้ปัญหาของรัฐบาลและองค์กรเอกชนทำได้เพียงจำกัด เพราะมิได้แก้ที่ต้นตอของมัน
ปัญหาเกิดจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ส่งการขยายผลผลิตส่วนใหญ่ไปให้คนรวยกลุ่มเล็กๆ และราคาบ้านระดับปานกลางเพิ่มขึ้นเร็วราว 2 เท่าของรายได้ของชนชั้นกลางในช่วงเวลา 40 ปีที่ป่านมา
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทำไม่ได้ เพราะระบอบประชาธิปไตยในสหรัฐถูกควบคุมโดยกลุ่มคนรวย.