‘สหรัฐ’ ตั้งข้อหาก่อการร้าย สกัดเครือข่ายค้าน้ำมัน เส้นทางทำรายได้อิหร่าน

‘สหรัฐ’ ตั้งข้อหาก่อการร้าย สกัดเครือข่ายค้าน้ำมัน เส้นทางทำรายได้อิหร่าน

“สหรัฐ” ประกาศได้ตั้งข้อหาก่อการร้าย หลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสั่งยึดทรัพย์กลุ่มที่เชื่อมโยงเครือข่ายค้าน้ำมันมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ สร้างรายได้ให้อิหร่าน

แถลงการณ์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (ดีโอเจ) ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้ มุ่งไปที่การค้าน้ำมัน หวังตอบโต้การกระทำของอิหร่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างการที่สหรัฐตั้งข้อหากับสมาชิกกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) โทษฐานที่วางแผนสังหารจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือน ส.ค.2566

นอกจากนี้ ก็เพื่อจัดการกับกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์โจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ไล่เรียงไปถึงเหตุการณ์โจมตีที่จอร์แดนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้สังหารทหารอเมริกัน 3 นาย  

 

"กระทรวงยุติธรรมจะใช้อำนาจที่มีอยู่ เพื่อสกัดเส้นทางรายได้ที่ผิดกฎหมาย และเอื้อต่อกิจกรรมที่เป็นภัยอันตรายจากอิหร่าน ซึ่งเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา" เมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์

ดีโอเจได้ประกาศยึดทรัพย์และเงินสดมากกว่า 108 ล้านดอลลาร์ของบริษัท China Oil & Petroleum ได้พยายามฟอกเงินผ่านบัญชีของธนาคารสหรัฐแห่งหนึ่ง โดยดีโอเจระบุว่า บริษัทนี้มีความสำคัญมากๆ ในการเชื่อมโยงเครือข่ายของ IRGC 

ดีโอเจยังได้ยึดน้ำมันอิหร่านมากกว่า 520,000 บาร์เรลในเรือบรรทุกน้ำมันดิบชื่อแอบบี้ย์ ที่ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ 

รายงานของแคปเลอร์ระบุว่า เรือดังกล่าวทอดสมออยู่ในทะเลเหลืองระหว่างจีน และเกาหลีใต้ หลังที่เรือแอบบี้ย์ได้บรรทุกสินค้าออกจาก Eastern Outside Port Limits ซึ่งเป็นจุดจอดทอดสมอ โดยเฉพาะสินค้าที่ถูกคว่ำบาตร ตั้งอยู่ทางตะวันออกของสิงคโปร์และมาเลเซีย ก่อนมุ่งหน้าไปยังเมืองตงอิ๋งของประเทศจีน

มีรายงานด้วยว่า สหรัฐได้ตั้งข้อหาชาวเอเชีย และชาวตะวันออกลางรวม 7 คน ได่แก่ ซิตกี อายัน ชาวตุรกีซึ่งเป็นประธานกลุ่มเอเอสบี , มอร์เตชา รอสตัม กาเซมี บุตรชายของอดีตผู้บัญชาการ IRGC และรัฐมนตรีปิโตรเลียมของอิหร่าน และเบห์นัม ชาห์ริยารี เจ้าหน้าที่กองกำลัง IRGC ทั้งหมดถูกศาลรัฐบาลกลางของเขตตอนใต้ของนิวยอร์กตั้งข้อหาและประกาศย้ำทรัพย์สิน

นอกจากนี้ ดีโอเจยังตั้งข้อหากับชางยุน หวัง หญิงชาวจีน, มาห์มูด ราจิด ชายชาวโอมาน ในข้อหาเกี่ยวข้องกับอิหร่าน ที่ได้พยายามหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร และการฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงขายน้ำมันอิหร่านให้กับโรงกลั่นของรัฐบาลจีน ตามที่ระบุในแถลงการณ์ศาลในเขตเมืองโคลัมเบียของสหรัฐ ขณะที่อีกสองคนยังไม่ได้รับการเปิดเผย

การส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันของอิหร่าน แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในปี 2566 แม้ว่าสหรัฐจะคว่ำบาตรโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่รัฐบาลเตหะรานยืนยันว่า เป็นโครงการพลังงานเพื่อสันติ

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ส่งผลให้การค้าน้ำมันของจีนกับอิหร่านต้องหยุดชะงักไปในเดือน ม.ค. เนื่องจากเตหะรานระงับการจัดส่งและเรียกร้องราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้ น้ำมันอิหร่านคิดเป็น 10% ของการนำเข้าน้ำมันดิบของจีน

ที่มา : Reuters