โออีซีดีเตือนวิกฤติตึงเครียดทะเลแดงดันเงินเฟ้อพุ่ง
องค์การเพื่อความร่วมมือ และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) ระบุว่า ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากผลพวงของความตึงเครียดในทะเลแดง จะขัดขวางประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่กำลังต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ
โออีซีดี ประเมินว่า อัตราค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้น 100% เมื่อไม่นานมานี้ จะทำให้เงินเฟ้อจากราคานำเข้าใน 38 ประเทศสมาชิกของโออีซีดี เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเกือบ 5% หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ซึ่งเท่ากับว่าจะเพิ่มเงินเฟ้อโดยรวม 0.4% หลังเวลาผ่านไปหนึ่งปี
ช่วงปลายปี 2566 บริษัทขนส่งรายใหญ่เริ่มเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือโดยเลี่ยงใช้คลองสุเอซของอียิปต์ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าระหว่างยุโรป และเอเชียที่รวดเร็วที่สุด เนื่องจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านนั้นก่อเหตุโจมตีเรือพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยความตึงเครียดดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับสูง และกองทัพของประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐ ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า เรือพาณิชย์ต้องอ้อมไกลไปถึงแหลมกู๊ดโฮปรอบๆ ชายฝั่งตอนใต้ของแอฟริกา ซึ่งเพิ่มระยะเวลาเดินทางระหว่าง 30% - 50% ซึ่งจะกระทบต่อปริมาณเรือขนส่งสินค้าในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม โออีซีดี เน้นย้ำว่า อุตสาหกรรมการขนส่งนั้นมีเรือขนส่งสินค้าเหลือเฟือในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการสั่งเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ใหม่ๆ ซึ่งจะลดแรงกดดันด้านต้นทุนลง
นางแคลร์ ลอมบาร์เดลลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดี กล่าวต่อสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องจากผลพวงของวิกฤติในทะเลแดงถือเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ไม่ใช่กรณีพื้นฐานของโออีซีดี
"วิกฤติในทะเลแดงเป็นสิ่งที่เรากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เราเห็นราคาขนส่งสินค้าแพงขึ้น หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคสูงขึ้น แต่ในเวลานี้ เรายังไม่คิดเช่นนั้น" หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดี ระบุ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์