ด่วน! ‘ส.ส. สหรัฐ’ ผ่านมติปลด รมว.ความมั่นคงจากเดโมแครต เสียงปริ่มน้ำ
สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ (สภาล่าง) ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนมากลงมติถอดถอน อเลฮานโดร มายอร์คาส (Alejandro Mayorkas) รมว.ความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐ ด้วยคะแนน 214 ต่อ 213 หลังยอดผู้อพยพเข้าสหรัฐแบบผิดกฎหมายพุ่ง
Key Points
- สภาล่างสหรัฐซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนมากลงมติถอดถอน อเลฮานโดร มายอร์คาส จากเดโมแครต
- เหตุผลของการถอดถอนคืออเลฮานโดร มายอร์คาสละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ยอดผู้แอบเข้าเมืองพุ่ง
- ขั้นตอนต่อไปคือนำเรื่องสู่วุฒิสภาซึ่งเดโมแครตครองเสียงส่วนมาก
สำนักข่าวซีเอ็นเอ (CNA) รายงานวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ (สภาล่าง) ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนมากลงมติถอดถอน (Impeachment) อเลฮานโดร มายอร์คาส (Alejandro Mayorkas) รัฐมนตรีว่ากระทรวง (รมว.) ความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐ (Homeland Security) ด้วยเสียงปริ่มน้ำ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากฝ่ายรีพับลิกันกล่าวหาว่า มายอร์คาส สนับสนุนให้ผู้อพยพข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายจากมาตรการควบคุมที่ไม่เข้มงวด ซึ่งการลงคะแนนถอดถอนครั้งนี้นับเป็นการถอดถอนเลขาธิการคณะรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกถอดถอนในรอบเกือบ 150 ปี
ทั้งนี้ สภาล่างผ่านมติถอดถอน มายอร์คาส ด้วยคะแนน 214 ต่อ 213 เสียงและกล่าวหาว่า รัฐมนตรีว่ากระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐภายใต้รัฐบาลไบเดนไม่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับคนเข้าเมืองจนทำให้มีผู้อพยพแบบผิดกฎหมายเข้ามาผ่านเส้นทางเม็กซิโก-เท็กซัสมากที่สุดเป็นประวัติการณ์และยังแถลงการณ์เท็จต่อสภาคองเกรส
มติการถอดถอนครั้งนี้เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากสัปดาห์ก่อนหน้าสภาล่างซึ่งนำโดยไมค์ จอห์นสัน (Mike Johnson) ประธานสภาล่างจากพรรครีพับลิกันพยายามลงคะแนนเสียงถอดถอน มายอร์คาส แต่ไม่สำเร็จเพราะสตีฟ สเกลส์ (Steve Scalise) หนึ่งในส.ส. จากรีพับลิกันเข้ารับการรักษามะเร็งและไม่ได้เข้าร่วมลงคะแนนเสียง ก่อนที่ในสัปดาห์นี้จะกลับเข้ามาที่วอชิงตันเพื่อผ่านมติถอดถอนสำคัญครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ของซีเอ็นเอ ระบุว่า ขั้นตอนต่อไปคือมติถอดถอนครั้งนี้จะเข้าไปที่วุฒิสภา (สภาสูง) ซึ่งเดโมแครตครองเสียงส่วนมาก ดังนั้นมติถอดถอนครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ผ่านขั้นตอนดังกล่าว
ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ผู้อพยพแบบผิดกฎหมายจำนวนมากเป็นประวัติการณ์เดินทางข้ามแดนเข้าสู่สหรัฐอเมริกาบริเวณพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ใช้จุดอ่อนเรื่องผู้อพยพเป็นนโยบายสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ปลายปี 2567 นี้
ด้านมายอร์คาส กล่าวว่า ไม่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมผู้อพยพบริเวณชายแดนเม็กซิโก-เท็กซัส แต่เป็นเพราะระบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐที่พัง (Broken US Immigration System) และสภาคองเกรสก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญแหล่งข่าวซีเอ็นบีซีและแม้แต่นักการเมืองจากพรรครีพับลิกันบางท่าน ยังกล่าวว่า
การสอบสวนเพื่อลงคะแนนเสียงถอดถอนเจ้าหน้าที่จากเดโมแครตครั้งนี้ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
เนื่องจาก ส.ส. ไม่สามารถแสดงหลังฐานของสิ่งที่เป็น “อาชญากรรมขั้นสูงและความผิดทางอาญา” (High Crimes and Misdemeanors) ซึ่งระบุไว้ในรัฐธรรมนูญสำหรับการถอดถอนได้อย่างชัดเจน แต่กลับใช้เพียง “ข้อโต้เถียงทางนโยบาย” (Policy Disputes) เท่านั้น
ด้านสํานักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐกล่าวเมื่อวานนี้ว่า จํานวนผู้อพยพที่ถูกจับกุมขณะข้ามพรมแดนทางใต้อย่างผิดกฎหมายในเดือนม.ค.ลดลง 50% จากระดับสูงสุดในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างถึงแนวโน้มการลดลงตามฤดูกาลและการบังคับกฎหมายใช้ที่เพิ่มขึ้นโดยสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตร
หลังจากนั้น กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐ เผยแพร่รายงานในประเด็นดังกล่าวเมื่อวานนี้เพื่อปกป้องมายอร์คาส และเรียกร้องให้สภาคองเกรสทํางานร่วมกับฝ่ายบริหารของไบเดนเพื่อปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัยแทนการเล่นการเมืองผ่านการลงมติถอดถอนเช่นนี้
อ้างอิง