เต็มหน้าสถานทูตไทย! หนุ่มสาวเมียนมาขอวีซ่าออกนอกประเทศหนีทหาร
ประชาชนกว่า 1,000 คนเข้าแถวที่สถานทูตไทยในนครย่างกุ้งของเมียนมาเมื่อคนหนุ่มสาวพยายามออกนอกประเทศหลังรัฐบาลบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารทั้งหญิงและชาย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน กองทัพเมียนมาประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะบังคับใช้กฎหมายรับราชการทหาร ชายอายุตั้งแต่ 18-35 ปี หญิง อายุระหว่าง 18-27 ปี เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลาอย่างน้อยสองปี ขณะที่กองทัพพยายามปราบปรามการต่อต้านรัฐประหาร
ที่สถานทูตไทยในนครย่างกุ้งคนหนุ่มสาวราว 1,000-2,000 คนไปยืนเข้าแถวขอวีซ่าออกนอกประเทศ เทียบกับก่อนประกาศกฎหมายมีคนมาขอวีซ่าไม่ถึง 100 คน สถานทูตเผยว่าออกบัตรคิวให้วันละ 400 คิว
ที่สถานทูตไทยในนครย่างกุ้งคนหนุ่มสาวราว 1,000-2,000 คนไปยืนเข้าแถวขอวีซ่าออกนอกประเทศ เทียบกับก่อนประกาศกฎหมายมีคนมาขอวีซ่าไม่ถึง 100 คน สถานทูตเผยว่าออกบัตรคิวให้วันละ 400 คิว
นักศึกษาวัย 20 ปี ผู้ใช้นามแฝงออง พโยเผยว่า มาถึงสถานทูตตั้งแต่ 20.00 น. วันพฤหัสบดี (15 ก.พ.) แล้วนอนหลับในรถก่อนเริ่มเข้าคิวประมาณเที่ยงคืน
“เราต้องคอยสามชั่วโมง ตำรวจมาเปิดประตูรั้วตอนตีสาม เราต้องวิ่งไปที่หน้าสถานทูตเพื่อรับบัตรคิว เมื่อเราได้แล้วคนที่ยังไม่ได้ก็ต้องเข้าคิวหน้าสถานทูตต่อไป ด้วยหวังว่าอาจจะได้คิวเพิ่ม” ออง พโยเล่า
กฎหมายฉบับนี้ออกโดยรัฐบาลทหารชุดก่อนในปี 2553 แต่ไม่เคยใช้และไม่ทราบแน่ชัดว่าตอนนี้จะบังคับใช้อย่างไร รายละเอียดไม่มีแต่หนุ่มสาวหลายคนไม่อยากรออีกต่อไป
“ผมอยากไปกรุงเทพฯ ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และหวังว่าจะอยู่ที่นั่นสักพัก ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำงานหรือเรียนหนังสือ แค่อยากหนีไปให้พ้นประเทศนี้”
รัฐบาลประกาศว่า กำลังใช้มาตรการติดอาวุธให้กลุ่มสนับสนุนกองทัพ ในช่วงที่่รัฐบาลกำลังต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านทั่วประเทศ ทั้ง “กองกำลังป้องกันประชาชน” (พีดีเอฟ) ที่ต่อต้านรัฐบาล และกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์
นายจ่อว์ มินทุน โฆษกรัฐบาลทหาร กล่าวเมื่อวันเสาร์ (10 ก.พ.) ว่า ระบบการรับใช้กองทัพเป็นสิ่งจำเป็น “เพราะสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศของเรา”
ทั้งนี้ นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือน ก.พ.2564 รัฐบาลปราบปรามผู้เห็นต่าง คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 4,500 คน จับกุมอีกกว่า 26,000 คน