ศาลปรับทรัมป์กว่า 1.2 หมื่นล้าน ฐานฉ้อโกงรัฐนิวยอร์ก
ศาลสั่งอดีตประธานาธิบดี 'ทรัมป์' จ่ายเงิน 354 ล้านดอลล์ให้รัฐนิวยอร์ก โทษฐานฉ้อโกง พร้อมห้ามกู้เงินในนิวยอร์ก 3 ปี
ผู้พิพากษาอาเธอร์ เอนโกรอนตัดสินว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องจ่ายเงินเกือบ 355 ล้านดอลลาร์ (กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท) ให้กับรัฐนิวยอร์ก โทษฐานที่เขาโกหกเกี่ยวกับมูลค่าทรัพย์สิน
นอกจากนี้ ผู้พิพากษาเอนโกรอนยังได้สั่งห้ามทรัมป์รับจ้างเป็นกรรมการบริษัท หรือขอเงินกู้จากธนาคารใด ๆ ในรัฐนิวยอร์กเป็นเวลา 3 ปี
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ทรัมป์ซึ่งเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์กได้รอดพ้นจากการที่บริษัทของเขาบางส่วนต้องเลิกกิจการ ซึ่งอาจนำไปสู่การล้มละลาย
ด้านทรัมป์เปิดเผยจากคฤหาสน์ของเขาในรัฐฟลอริดาว่า เขาจะยื่นอุทธรณ์การตัดสินดังกล่าว
"ผู้พิพากษารัฐนิวยอร์กที่ทุจริตเพิ่งตัดสินว่า ผมต้องจ่ายค่าปรับ 350 ล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างบริษัทที่สมบูรณ์แบบ" อดีตประธานาธิบดีกล่าวจากรีสอร์ตมาร์อาลาโกเมื่อวันที่ 16 ก.พ. และเรียกการพิจารณาคดีดังกล่าวว่า เป็นการล่าแม่มดทางการเมือง
"มันเป็นวันที่น่าเศร้ามากสำหรับประเทศ ในความคิดของผม" ทรัมป์ระบุ
ทั้งนี้ ในการตัดสินคดีเมื่อวันศุกร์ ผู้พิพากษาเอนโกรอนอ้างถึงข้อกล่าวหาต่าง ๆ ในการกระทำผิดก่อนหน้านี้ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้จำเลยต้องจ่ายเงินจำนวนมาก โดยระบุว่า จำเลย "มีแนวโน้มที่จะดำเนินการฉ้อโกงต่อไป" เว้นแต่เขาจะถูกกำหนดบทลงโทษที่รุนแรง
ผู้พิพากษาเอนโกรอนได้กล่าวถึงการตัดสินความผิดขององค์กรทรัมป์ (Trump Organization) ในคดีฉ้อโกงภาษีทางอาญาในปี 2565 โดยคณะลูกขุนพบว่า องค์กรทรัมป์ได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้บริหารระดับสูงโดยไม่มีการบันทึกลงในบัญชีมานานกว่าทศวรรษ